|
คำฟ้องโจทก์ คดีกู้เงินสินเชื่อธนาคารออมสิน
เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ธนาคารออมสิน (โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชน) ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ ๑ (ผู้กู้) จำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ ๓ (ผู้ค้ำประกัน) เป็นคดีผู้บริโภค ที่ศาลจังหวัดพระโขนง คดีหมายเลขดำที่ ผบ.๓๘๘๐/๒๕๕๕ เรื่อง กู้ยืม ค้ำประกัน ขอให้ชำระเงินต้นจำนวน ๔๓,๓๐๙.๘๑ บาท ดอกเบี้ยผิดนัดจำนวน ๖๕,๔๔๑.๑๒ บาท รวมเงินทั้งสิ้น ๑๐๘,๗๕๐.๙๓ บาท
ศาลนัดพิจารณาไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๕ เวลา ๐๙.๐๐ น.
คำให้การจำเลย คดีกู้เงินสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน(ออมสิน)
เราได้รับการติดต่อจากจำเลยเพื่อเรียงคำให้การสู้คดีเมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ เราจึงได้จัดเตรียมเอกสารให้จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๓ เพื่อยื่นคำคู่ความต่อสู้คดีต่อศาลดังนี้ (๑) คำให้การจำเลยที่ ๑ , (๒) คำให้การจำเลยที่ ๓ (๓) คำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเบื้องต้นข้อกฎหมาย (๓) บัญชีพยานจำเลยที่ ๑ , (๔) บัญชีพยานจำเลยที่ ๓ (๕) ใบมอบฉันทะจำเลยที่ ๓ โดยเมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๕ จำเลยที่ ๑ได้ไปยื่นคำคู่ความดังกล่าวต่อศาลจังหวัดพระโขนงด้วยตนเอง การยื่นคำให้การต่อสู้คดีดังกล่าวเป็นการตั้งประเด็นข้อกฎหมายที่เป็นข้อชี้ขาดผลคดีว่าชนะหรือแพ้แล้ว
การนัดพิจารณาพิจารณาของศาล คดีกู้เงินสินเชื่อธนาคารออมสิน
วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันนัดไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยาน จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๓ ขาดนัดพิจารณา ปรากฏว่าโจทก์แถลงขออนุญาตเลื่อนไปนัดสืบพยานในนัดหน้า ศาลอนุญาตให้เลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เวลา ๙.๐๐ น.
วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ศาลได้จดรายงานกระบวนพิจารณา ดังนี้
นัดสืบพยานโจทก์ หรือทำยอมวันนี้ ทนายโจทก์มาศาล ส่วนจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล
ทนายโจทก์แถลงว่า คดีนี้เป็นหนี้ที่อาจกำหนดจำนวนเงินได้แน่นอน จึงขอส่งเอกสารแทนการสืบพยาน จำนวน ๑๗ ฉบับ แล้วทนายโจทก์แถลงหมดพยานเพียงเท่านี้
พิเคราะห์คำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีนี้เป็นคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้เป็นจำนวนแน่นอน จึงอนุญาตให้โจทก์ส่เอกสารแทนการสืบพยานศาลรับไว้หมาย จ. ๑ ถึง จ.๑๗ เอกสารให้รวมสำนวนไว้
คดีเสร็จการพิจารณาให้รอฟ้งคำพิพากษาวันนี้
คำพิพากษาของศาล คดีกู้เงินสินเชื่อธนาคารออมสิน
ศาลพิพากษาว่า พิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๓๒๘/๒๕๕๖