.jpg) |
ข้อเท็จจริงในคดีนี้ ในวันเกิดเหตุเมื่อวันที่..... กรกฎาคม ๒๕๔๖ เวลา ๑๖.๓๐ น. ตำรวจกองบังคับการตำรวจ.....ได้นำหมายค้นของศาลอาญาที่...../๒๕๔๖ ได้ตรวจค้นที่บริษัท ภาพยนตร์ จำกัด ห้องเลขที่..... ชั้น ๓ อาคารไทม์ สแควร์ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร พบเทปวัสดุโทรทัศน์แผ่นวีซีดีภาพยนตร์ต่างประเทศที่ไม่ผ่านการตรวจพิจารณาจากนายทะเบียนและไม่ผ่านพิธีศุลกากรต่อมาวันเดียวกัน เวลา ๑๘.๓๐ น. ผู้ต้องหาซึ่งเคยเป็นผู้มีชื่อได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ แต่ไม่ได้เป็นกรรมการของบริษัทฯแล้วในวันและเวลาที่บริษัทฯถูกตรวจค้น ได้เดินทางไปที่บริษัท ภาพยนตร์ จำกัดสถานที่เกิดเหตุเนื่องจากต้องการแสดงความบริสุทธิ์และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ตรวจค้นได้จับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีเนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหาเป็นผู้มีชื่อได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดข้อหาประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายซึ่งเทปวัสดุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต นำเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ที่มิได้ผ่านการตรวจพิจารณาจากเจ้าพนักงานให้บริการในสถานที่ให้บริการเทปหรือวัสดุโทรทัศน์และนำสินค้า ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ซึ่งสินค้าต้องห้ามต้องจำกัดโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี โดยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาแต่มีคำสั่งฟ้องกรรมการบริษัทฯ จำเลยคดีนี้เป็นกรรมการบริษัทฯคนหนึ่งให้การต่อสู้คดีโดย ให้การปฏิเสธทั้งชั้นสอบสวนและชั้นศาล
คำฟ้อง ครุฑ คดีหมายเลขดำที่...../๔๗
ศาลอาญากรุงเทพใต้
วันที่.....เดือน มกราคม ๒๕๔๗
ความอาญ า
พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ๓ โจทก์
ระหว่าง
นาง ว. จำเลย
ฐานความผิด ร่วมกันประกอบกิจการให้เช่า จำหน่าย เทป หรือวัสดุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน มีเทปและวัสดุโทรทัศน์ ไว้ในสถานให้บริการ โดยไม่ผ่านการตรวจพิจารณาและได้รับความเห็นชอบจากเจ้าพนักงานผู้ตรวจ ซื้อหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงข้อห้าม ข้อจำกัด
ซึ่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ได้สอบวนแล้ว
ข้าพเจ้าพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ๓/๑) โจทก์
ขอยื่นฟ้อง (๑) นาง ว. อายุ ๔๙ ปี อาชีพ ทำธุรกิจ จำเลย
ตั้งบ้านเรือนอยู่บ้านเลขที่..... ถนน.....ตรอกหรือซอย.....
ใกล้เคียง.....
ตำบล.....
อำเภอ.....
จังหวัด.....
เชื้อชาติ ไทย
สัญชาติ ไทย
มีข้อความตามที่จะกล่าวต่อไปนี้
ข้อ ๑. เมื่อระหว่างวันที่.....พฤษภาคม ๒๕๔๖ เวลากลางวัน ถึงวันที่.....กรกฎาคม ๒๕๔๖ เวลากลางคืนหลังเที่ยง ติดต่อกันตลอดมาบริษัท.....จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายโดยนาย จ. และนาง ว. กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทน นาย จ. ในฐานะส่วนตัวและนาง ว. จำเลยนี้ในฐานะส่วนตัวได้ร่วมกันกระทำผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ
๑.๑ จำเลยนี้กับบริษัท.....จำกัด และนาย จ. ได้บังอาจร่วมกันซื้อและรับไว้โดยประการใดๆซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ วีดีโอเทปต้นฉบับภาพยนตร์ต่างประเทศภาษา....จำนวน ๓,๒๐๗ ม้วน รวมราคา ๓๒๐,๗๐๐ บาท ค่าอากรขาเข้า ๙๖,๒๑๐ บาทและวีซีดีต้นฉบับภาษาต่างประเทศ ภาษา.....จำนวน ๕๙๙ แผ่น รวมราคา ๑๑๙,๘๐๐ บาท อากรขาเข้า ๓๕,๙๔๐ บาท ซึ่งรวมเป็นราคาของและค่าอากรเป็นเงินทั้งสิ้น ๕๗๒,๖๕๐ บาท ทั้งนี้โดยมีผู้ลักลอบนำของดังกล่าวซึ่งเป็นของที่มีแหล่งกำเนิดในต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักร และจำเลยทั้งสามรู้อยู่แล้วว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
๑.๒ จำเลยนี้กับกับบริษัท.....จำกัด และนาย จ. ได้บังอาจร่วมกันประกอบกิจการให้เช่าและจำหน่ายซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ต้นฉบับดังกล่าวตามฟ้องข้อ ๑.๑ และวีดีโอเทปที่ได้อัดและบันทึกสำเนาไว้ จำนวน ๓,๒๙๐ ม้วนที่ห้องเลขที่.....อาคารไทมส์สแควร์ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร โดยทำเป็นธุรกิจหรือได้ประโยชน์ตอบแทนด้วยการคิดค่าบริการในรูปของค่าธรรมเนียมสมาชิกหรือด้วยวิธีการอื่นใด โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
๑.๓ จำเลยนี้กับกับบริษัท.....จำกัด และนาย จ. ได้บังอาจนำเทปและวัสดุโทรทัศน์ต้นฉบับตามฟ้องข้อ ๑.๑ และวีดีโอเทปที่ได้อัดและบันทึกสำเนาไว้ตามฟ้องข้อ ๑.๒ มาให้บริการในสถานที่ให้บริการเทปและวัสดุโทรทัศน์ที่สถานที่ดังกล่าวตามฟ้องข้อ ๑.๒ โดยเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ดังกล่าวมิได้ผ่านการตรวจพิจารณาและได้ความเห็นชอบจากเจ้าพนักงานผู้ตรวจหรือที่มีผู้รับรองสำเนาแล้ว อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย
เหตุตามฟ้องข้อ ๑.๑ ถึงข้อ ๑.๓ เกิดที่แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
ข้อ ๒. ต่อมาเมื่อวันที่.....กรกฎาคม ๒๕๔๖ เวลากลางคืนหลังเที่ยง เจ้าพนักงานได้เข้าตรวจค้นสถานที่ให้บริการเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ดังกล่าวตามฟ้องข้อ ๑ และยึดวีดีโอเทปต้นฉบับภาพยนตร์ต่างประเทศ ภาษา.....จำนวน ๓,๒๐๗ ม้วน วีดีโอเทปที่ได้อัดและบันทึกสำเนาไว้จำนวน ๓,๒๙๐ ม้วน วีซีดีต้นฉบับภาพยนตร์ต่างประเทศ ภาษา.....จำนวน ๕๙๙ แผ่น เครื่องเล่นวีดีโอยี่ห้อโซนี่ จำนวน ๕ เครื่อง ที่ใช้ในการอัดและบันทึกสำเนาภาพยนตร์จากม้วนวีดีโอต้นฉบับลงในม้วนที่คัดลอกและสมุดบัญชีลูกค้า ๑ เล่ม เป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน ต่อมาวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๔๖ จำเลยนี้ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน
ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ของกลางเจ้าหนักงานเก็บรักษาไว้
ระหว่างสอบสวนจำเลยไม่ถูกควบคุมโดยได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวตลอดมา ได้ส่งตัวจำเลยมาศาลพร้อมฟ้องนี้แล้ว
คำขอท้ายฟ้องอาญา
การที่จำเลยได้กระทำตามข้อความที่กล่าวมาในคำฟ้องนั้น ข้าพเจ้าถือว่าเป็นความผิดต่อกฎหมายและบทมาตราดังนี้ คือ พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ ทวิ พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ.๒๔๙๙ มาตรา ๔ พระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. ๒๕๓๐ มาตรา ๔ , ๖, ๒๐ วรรคแรก , ๓๒ , ๓๔ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓ , ๘๓ , ๙๑ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๔
ขอศาลได้พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายและขอศาลได้สั่งริบของกลางทั้งหมด
ข้าพเจ้าได้ยื่นสำเนาคำฟ้อง โดยข้อความถูกต้องเป็นอย่างเดียวกันมาด้วย หนึ่ง ฉบับ และรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว
ลงลายมือชื่อ..... โจทก์
คำฟ้องฉบับนี้ข้าพเจ้า เรือเอก ณ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ๓ เป็นผู้เรียง
ลายมือชื่อ..... ผู้เรียง
คำฟ้องฉบับนี้ ข้าพเจ้า นางสาว ว ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล เป็นผู้เขียนหรือพิมพ์
ลายมือชื่อ..... ผู้เขียนหรือพิมพ์