คดีนี้จำเลยครอบครองที่ดินบางส่วน ต่อมาถูกฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหาย จำเลยจึงให้การต่อสู้คดีเรื่องกรรมสิทธิ์ และฟ้องแย้งด้วย การยื่นคำให้การแก้คดี ใช้แบบพิมพ์คำให้การจำเลยของศาล หมายเลข (๑๑ ก) คำให้การจำเลย โดยมีเนื้อหาคำให้การจำเลยและฟ้องแย้งดังนี้

            ข้อ ๑.จำเลยยอมรับว่าที่ดินโฉนดเลขที่.....ตำบลบางพูด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่จำนวน ๒๐ ตารางวา ตามเอกสารท้ายฟ้องโจทก์หมายเลข ๑ แบ่งแยกมาจากโฉนดที่ดินแปลงใหญ่เดิมตามโฉนดเลขที่....ตำบลบางพูด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๑ จริง ปรากฏตามเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๑

            ข้อ ๒. จำเลยขอให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์เรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินเนื้อที่ จำนวน ๒๐ ตารางวา ตามคำฟ้องโจทก์ข้อ ๑ ว่า ที่ดินดังกล่าวโจทก์มีกรรมสิทธิ์เพียง ๑๐ ตารางวา นอกเหนือจากที่ดินที่จำเลยครอบครองปลูกบ้านอีกจำนวน ๑๐ ตาราวา โดยจำเลยขอให้การต่อสู้เรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวว่า จำเลยมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวเนื้อที่จำนวน ๑๐ ตารางวา กล่าวคือ ตั้งแต่ก่อนที่โจทก์จะได้รับการแบ่งแยกโฉนดที่ดินมาจากที่ดินแปลงใหญ่นั้น นาง อ. มารดาจำเลยได้ปลูกสร้างบ้านเลขที่....หมู่ที่.....ตำบลบางพูด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี บนที่ดินดังกล่าวอยู่แล้ว ปรากฏตามสำเนาทะเบียนบ้าน เอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๒ ต่อมาเมื่อนาย ร.ได้รับกรรมสิทธิ์โฉนดที่ดินแปลงใหญ่มาเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๔๒ ตามเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๑ และภายหลังต่อมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ นางสาว บ ทายาทผู้สืบสิทธิ์ของเจ้าของที่ดินได้ขายที่ดินที่มารดาของจำเลยปลูกบ้านเลขที่ข้างต้นอยู่ให้มารดาจำเลยในราคา ๓๐,๐๐๐ บาท โดยไม่ได้มีการจดทะเบียนซื้อขายทางทะเบียนกันที่สำนักงานที่ดิน แต่มารดาจำเลยได้รับการส่งมอบที่ดินจากนางสาว บ.และเข้าครอบครองที่ดินโฉนดเลขที่.....ตำบลบางพูด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ตามเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๑ ดังกล่าวโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเนื่อที่ดินจำนวน ๑๐ ตารางวาตามเนื้อที่ปลูกสร้างบ้านเลขที่ข้างต้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ มาจนถึงวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ มารดาจำเลยจึงเสียชีวิตลง จำเลยผู้เป็นผู้สืบสิทธิ์ต่อจากมารดาจึงครอบครองที่ดินโฉนด เลขที่.....ตำบลบางพูด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ตามเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๑ ดังกล่าวโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเนื้อที่จำนวน ๑๐ ตารางวาตามเนื้อที่ปลูกสร้างบ้านเลขที่ข้างต้นดังกล่าวต่อจากมารดาตลอดมาถึงวันที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ คือวันที่๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๒ เป็นเวลากว่า ๑๐ ปี ดังนั้นที่ดินโฉนดเลขที่.....ตำบลบางพูด อำเภอ เมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เนื่อที่จำนวน ๑๐ ตารางวาที่มีบ้านเลขที่....หมู่.....ตำบลบางพูด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ปลูกอยู่ที่โจทก์เป็นผู้สืบสิทธิ์ต่อมาและแบ่งแยกมาจากที่ดินโฉนดเลขที่.....ตามเอกสารท้ายคำให้การจำเลยหมายเลข ๑ จึงเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา ๑๓๘๒

            ข้อ ๓. จำเลยขอให้การปฎิเสธคำฟ้องโจทก์ข้อ ๒ และขอให้การต่อสู้ว่า จำเลยไม่เคยได้รับหนังสือบอกกล่าวของทนายความโจทก์ตามเอกสารท้ายฟ้องโจทก์หมายเลข ๒ และ ๓ แต่อย่างใดๆ ลายมือชื่อที่ลงในเอกสารท้ายฟ้องโจทก์หมายเลข ๓ ไม่ใช่ลายมือชื่อจำเลย

            ข้อ ๔. จำเลยขอให้การปฎิเสธคำฟ้องโจทก์ข้อ ๓ และขอให้การต่อสู้ว่าที่ดินโฉนดเลขที่.....ตำบลบางพูด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่จำนวน ๑๐ ตารางวาที่มีบ้านเลขที่....หมู่ที่.....ปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย จำเลยไม่เคยโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ไม่มีความเสียหาย ที่ดินดังกล่าวหากนำออกให้ผู้อื่นเช่าจะได้ค่าเช่าไม่เกินเดือนละ ๕๐ บาท

            ฟ้องแย้ง

            เนื่องจากที่ดินโฉนดเลขที่.....ตำบลบางพูด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่จำนวน ๑๐ ตารางวาที่มีบ้านเลขที่.....หมู่ที่.....ตำบลบางพูด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานีปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยซึ่งจำเลยได้กรรมสิทธิ์มาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๘๓๒ ดังคำให้การข้อ ๒.ของจำเลยข้างต้น จำเลยจึงขอฟ้องแย้งโจทก์โดยให้ขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์ไปทำการแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวให้แก่จำเลยตามสิทธิ์  หากโจทก์ไม่กระทำตาม ขอศาลได้โปรดให้จำเลยถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแทนการแสดงเจตนาของโจทก์

            อาศัยเหตุผลตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังที่ได้กราบเรียนมาข้างต้น จำเลยจึงขอศาลได้โปรดพิพากษายกฟ้องโจทก์และพิพากษาให้โจทก์ไปทำการแบ่งแยกกรรมสิทธิ์ที่ดินเลขที่.....ตำบลบางพูด อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี เนื้อที่จำนวน ๑๐ ตารางวาที่มีบ้านเลขที่.....หมู่ที่.....ปลูกอยู่บนที่ดินดังกล่าวให้เป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย  หากโจทก์ไม่กระทำตาม ขอศาลได้โปรดให้จำเลยถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแทนการแสดงเจตนาของโจทก์

                              ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

                    ลงชื่อ                                      จำเลย

               คำให้การจำเลยฉบับนี้ ข้าพเจ้านางสาว ส. เป็นผู้เรียง

                     ลงชื่อ                                     ผู้เรียงและพิมพ์

หากท่านมีข้อเท็จจริงเช่นนี้ สามารถนำคำให้การจำเลยและฟ้องแย้งนี้ไปปรับใช้ได้เลย หากสงสัยในเรื่องการเรียงคำให้การจำเลย โปรดคลิ๊กที่ จัดเตรียมคำให้การสู้คดี