หน้าหลัก | เกี่ยวกับเรา | ปรึกษากฎหมายฟรี | ค่าทนายความ | คำถามที่พบบ่อย | ติดต่อเรา |
รบกวนด้วยครับ ปัญหาปวดหัวมากกับคนที่เรียกว่าแม่ | |
สวัสดีครับ ผมมีปัญหากับแม่ตัวเองครับ ขอท้าวความตั้งแต่ผมเกิดนะครับเมื่อปี 2527 ตั้งแต่ผมเกิดแม่ก็ทิ้งผมไปแต่แรกเกิด โดยที่พ่อผมได้อุ้มไปตามหาแม่ที่เพชบูรณ์ พอไปถึงบ้านก็เจอแม่อยู๋บ้านที่เพชบูรณ์ แต่กลับไล่พ่อและผมไป จากนั้ันพ่อก็ให้ผมไปอยู๋กับย่าที่อุดร แล้วพ่อก็ทำงานที่กรุงเทพจนได้เป็นผู้จัดการ มีรถ มีคอนโด มีเงินเดือนเยอะ แล้วพ่อก็คบกับผู้หญิงคนใหม่และได้ตั้งท้องด้วยกัน จากนั้ันแม่กลับมาและไม่รู้เกิดอะไรขึ้นพ่อก็กลับไปหาแม่และทิ้งผู้หญิงนีที่ตั้งท้องอยู่ จนผูู้หญิงคนนี้ได้ฆ่าตัวตาย จากนั้นพ่อกับแม่ก็อยู่ด้วยกันและทำมาหากินมาด้วยกันตลอกกว่า 20 ปี ตลอดเวลาระหว่าง 20 ปี ผมก็อยู่กับย่ามาตลอดและเงินที่ให้ย่าใช้แต่ละเดือนพ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยจะส่งมาให้ ย่าต้องโทรไปขอ เดือนละประมาณ 1 พัน ผมกับย่าอยู่อย่างลำบาก ค่าเทอมน้าก็จ่ายให้ พ่อแม่แทบไม่สนใจ ในขณะที่พ่อแม่หาเงินได้เยอะแยะ จนกระทั้งผมจบม.3 ผมก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพ เพราะย่าไม่อยากให้ลำบากอยากให้ไปอยู่กับพ่อแม่ เพื่อจะสบาย ที่ไหนได้ระหว่างที่ผมเรียนม.4-5-6 ที่โรงเรียนดอนเมือง ผมไปช่วยแม่ขายของที่ตลาดใหม่ดอนเมืองตลอด ระหว่างนั้ันแม่ให้ผมช่วยทำงานแพ็คขนม ดึกๆดื่นๆมาตลอด ร้านขายของแม่กับโรงเรียนผมอยู๋ห่างกันไม่ถึง กิโลเมตร แต่ผมต้องตื่นแต่ตี 5 มาเรียนเองนั่งรถเมล์ในขณะที่แม่ขับรถยนต์ที่พ่อและแม่ซื้อกับมา ไปร้านขายของ เวลามีงานโรงเรียนอะไรก็ไม่เคยไป ในขณะที่เพื่อนๆถามว่าพ่อแม่ไม่มาเหรอ ผมเองก็ต้องตอบเพื่อนมาตลอดว่า พ่อแม่ทำงานไม่ว่าง แต่พอเพื่อนถามว่า แม่ขายของอยู่ตลาดดอนเมืองนี้เองไม่ใช่เหรอ ทำไมมาไม่ได้ ผมก็เลยไม่ตอบได้แต่อาย งานวันแม่ก็ไม่มา วันพ่อก็ไม่มา งานแสดงกิจกรรมต่างๆก็ไม่มา จนผมจบม.6 ผมเรียนที่ราชภัฎพระนคร ระหว่างนั้ันผมก็ไปเรียนโดนที่แม่ใช้ให้ไปส่งของแต่ตี 5 และเลิกเรียนก็ให้ไปช่วยเก็บร้าน เป็นยังงี้จนกระทั่งผมขอไปหาย่าที่อุดร บอกว่าคิดถึงย่า แม่บอกว่าไปทำไม ผมก็ร้องไห้ว่าคิดถึงย่า แม่ก็ตบหน้าผม ผมเลยลงจากรถแล้วไปหาน้าที่สะพานใหม่ ผมเลยออกจากบ้านตั้งแต่ตอนนั้ันมาอยู่กับน้า จากนั้ันผมก็ออกมาอยู่กับเพื่อนมาทำงาน แล้วมาวันนึงพ่อบอกว่าพ่อจะออกจากที่ทำงานมาขายของที่ตลาดนัด พ่อออกมาเพื่อจะเอาเงินล่วงหน้า 3 เดือนมาให้แม่ แล้วพ่อก็ขายของตลาดนัดตามต่างจังหวัด ตากแดดตากลมคนเดียว ขายได้เท่าไรก็ส่งให้แม่หมด ขายของพวกกะละมัง ถ้วยจาน ตอนนั้ันผมก็ขายของที่ตลาดนัดที่กรุงเทพ จนวันนึงย่าป่วยหนักผมเลยอยากบวชให้ย่า ให้ย่าเห็นผ้าเหลืองก่อน ก่อนที่ย่าจะเสีย ตอนนั้ันพ่อก็มาเยี่ยมย่าที่โรงบาล แล้วพ่อก็ไปขายของต่อ เพราะต่้องหาเงินให้แม่ ผมเลยบอกพ่อว่าจะบวชให้ย่า แม่ก็เลยบอกให้ไปบวชที่จังหวัดนนทบุรีกับพระอาจารย์บุญมี ผมเลยบวชระหว่างนั้ันย่าก็อาการดีขึ้น ผมเลยบวชต่อเรื่อย จนวันนึงย่าเสีย หลังจากนั้ันพ่อป่วยหนักอีกเส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพาตครึ่งตัว แล้วพอดีคนที่อยู่ข้างบ้านตอนที่ย่าป่วยเค้าสงสารครอบครัวผม เค้าช่วยเหลือเรามาตลอด จนพ่อมาป่วยหนัก เค้าเลยอาสามาดูแลพ่อให้ จากนั้ันจึงเช่าบ้านอยู่ที่อุดรเพื่อรักษาตัว แล้วพอดีน้ำท่วมผมเลยศึกจากการเป็นพระ ก่อนศึกผมคุยกับแม่ว่าผมขอเรียนต่อเหมือนเดิม แล้วพอดีแม่ออกรถใหม่ เป็นรถแค๊ฟติว่า แม่บอกจะให้รถผมคันนี้เพราะผมสอบได้คะแนนสูงสุดของคณะวิชาคณิตศาสตร์และผมได้เกรด 3.00 ขึ้น ผมเลยนำรถคันนี้ไปหาพ่อ แล้วรถคันนี้คือปัญหาของเรื่องนี้ จากนั้ันผมก็มาหาพ่อที่อุดรและได้เจอเพื่อนที่อุดร ผมกับเค้าคบหากันมา จนผมกลับกรุงเทพ แม่เอารถคันนี้ไป และบอกให้ผมใช้รถกะบะแทน แม่ได้โกหกว่าจะขายให้น้า ผมเลยไม่ได้ว่าอะไร แล้วผมก็ขายของหน้าร้านแม่ และไปเรียนด้วยในขณะที่ผมก็อยู่กับเพื่อนที่มาด้วยกันจากอุดร ผมให้เค้าขายของให้ และผมไปเรียน ช่วยกันทำมาหากิน มาตลอด จนมาวันนึงผมว่าผมอยากไปขายของตลาดนัดเหมือนเดิม เลยออกจากมหาลัย เพราะแม่พูดไว้ว่าถ้าผมหาเงินมาส่งรถกะบะหมดแม่จะโอนให้ ผมเลยรีบไปขายของตามตลาดนัด เร่งหาเงิน จนหามาได้ตามจำนวนที่ติดไฟแนน ผมรอให้แม่ไปโอนให้ตามที่พูด แม่บอกแม่ไม่โอน ผมเลยพูดว่าทำไมแม่ไม่ทำตามสัญญา จากนั้ันผมเลยบอกว่าถ้างั้นผมขอรถผมคืน รถเก๋งนิสสันที่ใช้อยู่ตั้งแต่ก่อนหน้าบวช แต่ตอนนี้แม่เอาไปให้พี่สาวที่ผมไม่เคยรู้เลยว่าเป็นพี่สาวผม อยู่พี่สาวผมโผล่มาจากไหนไม่รู้ ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งรู้ว่ามีพี่สาว แม่บอกว่าเป็นพี่สาวคนละพ่อ ผมก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน แม่เอารถผมไปให้พี่สาวผมคนนี้ขับ ในระหว่างผมบวช โกหกผมว่าเอาไปเข้าอู่ แต่ผมขับรถสวนรถผมคันนี้ผมเลยมาถาม แม่จึงบอกไปว่าให้พี่สาวยืมไปขับ ผมเลยบอกว่าถ้างั้นถ้าแม่ไม่โอนให้ผมก็ขอรถผมคืน ผมจะไปหาขายของเองเหมือนเดิม แม่บอกว่าไปเลย จะไปไหนก็ไป ผมจึงไปขายของตลาดนัดที่อุดร กับเพื่อนคนนี้ จนวันนึงได้แต่งงานกันที่อุดร และได้อยู่ด้วยกันเป็นเวลา 2 เดือนกว่าๆ แล้วมีปัญหากัน จึงเลิกกันไป ผมเลยไปขอแม่ว่าผมขอไปขายของกับแม่เหมือนเดิมได้ไหม แม่บอกว่าไม่ต้อง จะไปไหนก็ไป ผมเลยไปหางานทำที่พัทยา จนได้เป็นเลขาผู้จัดการ ที่ triangle ข้างอัลคาซ่าร์ และได้อยู่กับพี่คนนึงเค้าให้อยู่ด้วย ผมจึงอยู๋กับเค้ามาตลอด จนวันนึงคนที่แต่งงานด้วยนั้ัน เค้าโทรมาขอคืนดี ผมจึงให้เค้ามาที่พัทยา และมาอยู่ด้วยกัน จากนั้ันก็มีปัญหากันมาตลอด จนเลิกกันไปอีก ผมเลยกลับมาอยู่กับพี่คนเดิม แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกัน จนได้คุยทางเฟสบุค คุยไปคุยมาถามไถ่กันปกติว่าอยู่เค้าบอกว่าอยู่พัทยานี้แหละแต่ว่าไม่บอกว่าอยู่ไหน และได้มีแฟนใหม่แล้ว ผมเองก็มาแฟนใหม่ ก็เลยบอกว่าจากนี้ได้เป็นแค่พี่น้องกันนะ ผมเลยก็ตกลงตามนั้ัน จนมาวันนึง เรื่องมันอยู่ตรงนี้ คนที่ดูแลพ่อโทรมาหาผม บอกว่า ตอนนี้แม่ไม่ติดต่อไม่ส่งเสียพ่อมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว 3-4 เดือน ให้ผมไปรับพ่อด้วย เพราะเค้าดูแลไม่ไหวแล้ว แม่ไม่ส่งเสียเลี้ยงดูพ่อเลย ผมเลยโทรหาเค้าก็เล่าให้ฟัง ผมเลยให้คนดูแลพ่อบอกแม่ไปว่า แม่จะเอายังไง ถ้าแม่ไม่ส่งเสียพ่อ แม่ก็เอารถของพ่อให้พ่อไว้กับพ่อไว้ให้ผมกับพ่อเพื่อผมจะดูแลพ่อต่อไปเอง แม่เลยบอกว่ามีอะไรเป็นของพ่อบ้างไม่มี ตอนนี้เป็นของแม่หมดแล้ว เหลือคันเดียวแค๊ฟติวา มาโอนให้แม่ซะ ผมเลยบอกว่าถ้าผมโอนผมกับพ่อจะเหลืออะไรไหมแม่ ผมจะเอาเงินที่ไหนดูแลพ่อ แค่ผมเองก็เลี้ยงตัวเองไปวันๆ แม่บอกก็แล้วแต่จะไปทำกันเอง ไม่เกี่ยว ผมจึงเงียบไปคิดว่าแม่พูดอยากให้ผมโอนรถให้เฉยๆ ผมจึงเงียบไป จนคนดูแลพ่อโทรมาเรื่อยว่าไม่ไหวแล้วนะ แม่ไม่ส่งเสียพ่อเลย ไม่มีเงินแล้ว คนดูแลพ่อจึงโทรไปหาแม่แล้วแม่บอกว่าแม่ไม่มีเงิน รถคันแค๊ฟติวาก็ไม่มีส่งแล้ว ถ้าผมอยากได้ก็มาเอาไป ผมก็เลยบอกถ้างั้นผมจะเอารถคนนั้ันมาละกัน จนวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แม่เป็นประธานพิธีกฐิน ที่สำนักสงฆ์พุทธภาวนา ที่ผมบวชก่อนหน้านั้ัน ผมจึงแปลกใจว่าทำไมไม่บอกผมกับพ่อให้ไปร่วมงานด้วย อยากเข้าไปหาแต่ไม่รู้จะไปคุยอะไร จึงได้แต่ไปร่วมงาน อยู่รอบนอกๆ และได้เห็นรถคันแค๊ฟติวาจอดอยู๋ ผมเลยขับออกมา โดยไม่รู้ว่ามีอะไรในรถบ้าง แล้วแม่ก็โทรติดต่อทุกคนในครอบครัว น้า ป้า โทรหาผมว่าแม่เค้าอยากได้ของในรถคืน รถเอาไปเลย ผมก็เลยเอาของไปคืน จากนั้ัน ได้รับข่าวจากน้าอีกว่า ของไม่ครบ เงินหายไป 5 หมื่น และแหวน 3 วง และสมุดบัญชี ซึ่งผมไม่ได้เอาไปเลย มีของในรถแค่ไหนผม็ฃก็เอาไปให้เท่านั้ัน ไม่ได้เอาอะไรออกเลย แล้วแม่ก็แจ้งความอาญาว่าผมลักทรัพย์ ให้ผมเอารถไปคืนและไปโอนเป็นชื่อของแม่ซะ แล้วจะไม่เอาความ ผมเลยคิดว่าถ้าผมไปโอนรถให้ ผมกับพ่อก็ไม่เหลืออะไร ทิ้งไปโดนไม่เหลืออะไรให้เลย ทั้งหมดเป็นการวางแผนของแม่ทั้งหมดเพื่อให้ผมโอนรถเป็นชื่อแม่ทั้งหมด ผมควรจะทำยังไงดีครับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ เน (atipan21-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2012-11-23 02:09:06 IP : 192.168.0.157 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3386979) | |
ได้เคยตอบปัญหานี้แล้ว ประเด็นก็คือคุณถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์ จะเป็นความจริงหรือไม่ ต้องมีพยานหลักฐานมาพิสูจน์กัน ควรหาทนายความช่วยเหลือในการต่อสู้คดี......ถ้าคุณถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์ แม้คุณจะยอมโอนรถให้แม่ คดีก็ไม่ยุติ ตำรวจและอัยการก็ยังสามารถดำเนินคดีคุณต่อไป เพราะเป็นอาญาแผ่นดินที่ไม่สามารถยอมความกันได้ มีทางเดียวต้องหาทางพิสูจน์ตนเองว่าไม่ได้กระทำความผิดครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม (sny-at-thaimail-dot-com)วันที่ตอบ 2012-11-25 10:19:34 IP : 101.51.170.245 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3391382) | |
เขาไม่คิดว่าคุณเป็นลูก จัดการพีสาวซะแล้วคุณจะได้ทุกอย่างกลับคืนมา | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ดำดำ วันที่ตอบ 2012-12-21 15:43:39 IP : 203.144.130.176 |
[1] |
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๖๖ |
Visitors : 267025 |