หน้าหลัก | เกี่ยวกับเรา | ปรึกษากฎหมายฟรี | ค่าทนายความ | คำถามที่พบบ่อย | ติดต่อเรา |
ปรึกษาเรื่องรถชนค่ะ | |
ลักษณะการชน คือรถจักรยานยนต์ของดิฉันจะเลี้ยวขวาเข้าซอยหน้าหมู่บ้าน พอเลี้ยวขวา ก็มีรถจักยานยนต์เข้ามาชนตรงคุณแม่ที่เป็นผู้ซ้อนท้าย ทำให้คุณแม่ดิฉันได้รับบาดเจ็บ ที่ศีรษะเย็บไป 10 เข็ม ทำให้สมองช้ำ ปากด้านในฉีกขาดเย็บ 14 เข็ม กระดูกไหปลาร้าข้างซ้ายหัก และต้องนอนอยู่ในICU และอยู่ในโรงพยาบาลประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนดิฉันกระดูกนิ้วโป้งเท้าขวาร้าว และมีบาดแผลเจาะที่หัวเข่าและข้างเข่าทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเมื่อดิฉันไปสถานีตำรวจ ดิฉันจะแจ้งความเรื่องรถชนกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้ง ให้เหตุผลกับดิฉันว่า มีการลงบันทึกประจำวันไว้อยู่แล้ว ซึ่งทางตำรวจก็ได้ยกรถจักรยานยนต์มาไว้ที่สถานีตำรวจแล้ว ซึ่งดิฉันแจ้งกับทางตำรวจให้ลงบันทึกประจำวันได้แค่เพียงร้อยเวรเจ้าของคดี เขียนเลขทะเบียนรถดิฉันผิด ต่อมา ตำรวจเจ้าของคดีนัดคู่กรณีทั้งหมด 3 ฝ่าย ไปตกลงกัน ซึ่งคู่กรณีนั้นเป็นรถจักรยานยนต์รับจ้างที่มีผู้โดยสารซ้อนท้ายมาด้วย และคู่กรณีคนขับขี่ มีบาดแผลเจ็บเล็กน้อยแต่ไม่ได้ไปหาหมอ แต่ผู้โดยสารที่ซ้อนท้ายมาก็มีบาดแผลเจ็บเล็กน้อยที่นิ้วมือซึ่งฝ่ายนี้แจ้งว่าได้ไปรักษาที่โรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายต่างๆ เกิดขึ้น ซึ่งทางตำรวจได้แจ้งกับฝ่ายดิฉันว่า ฝ่ายดิฉันนั้นเสียเปรียบถ้ามองจากหลักการใช้ถนนเพราะเป็นการเลี้ยวขวา รถคู่กรณีเป็นทางตรง ซึ่งดิฉันนั้นได้แย้งว่า ได้เปิดไฟเลี้ยวตั้งนานแล้ว และเวลาจะเลี้ยวขวาก็ระมัดระวังมากๆ ถ้าไม่ระวังในขณะเลี้ยว มีรถเก๋งไม่ทราบยี่ห้อกำลังขับตรงขึ้นมา ทำไมไม่ชนกับรถจักยานยนต์ของดิฉัน แต่กลับมาชนกับรถจักรยานยนต์ของคู่กรณีที่ขับขี่มา ซึ่งคู่กรณีแย้งมาว่า ดิฉันขี่ตัดหน้า ทำให้เบรคไม่ทัน และคู่กรณีขับขี่ที่ความเร็วประมาณ 40 ซึ่งทางดิฉันแย้งว่า หากขับขี่ประมาณ 40 คุณแม่ดิฉันคงไม่บาดเจ็บขนาดนี้ ซึ่งดิฉันได้พูดกับคุณตำรวจว่า ถ้าอย่างนั้นก็ให้ปรับทั้งคู่ในฐานะขับรถประมาท ซึ่งคุณตำรวจก็ไม่ปรับแจ้งแค่ว่ามีผู้บาดเจ็บและผู้บาดเจ็บเป็นพยานฝ่ายตำรวจนะ ซึ่งตำรวจ ให้ตกลงกับคู่กรณี แต่ทางคู่กรณีนั้นให้ดิฉัน ชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด ซึ่งทางดิฉันได้แย้งไปว่า แล้วทางฝ่ายดิฉัน ใครจะเป็นฝ่ายชดเชยให้ คุณแม่ดิฉันเจ็บขนาดนี้ แต่ทางตำรวจก็ยังย้ำกับดิฉันตลอดเวลาว่า ฝ่ายดิฉันเสียเปรียบ ถ้าขึ้นศาลแล้วมีการฟ้องร้อง และถ้าฝ่ายดิฉันมีการชดเชยให้กับคู่กรณีที่เป็นผู้ซ้อนท้าย ศาลก็จะมองเห็นเจตนาตรงนั้น ซึ่งในวันนั้นคุณแม่ดิฉันก็ได้ตกลงจ่ายค่าชดเชยให้กับคู่กรณีที่เป็นผู้ซ้อนท้ายไปจำนวนหนึ่งซึ่งได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากคุณตำรวจแจ้งว่าจะได้หมดเป็นกรณีๆไป แต่กับฝ่ายคู่กรณีที่เป็นผู้ขับ ตกลงกันไม่ได้ ทางฝ่ายนั้นจะฟ้องทางฝ่ายดิฉัน ให้ชดเชยค่าเสียหายทั้งหมด ซึ่งทางตำรวจก็ได้แจ้งให้คู่กรณีเอาช่างที่คู่กรณีหามาไปตีราคาค่าเสียหายของรถจักรยานยนต์ และให้คู่กรณีมาตกลงกันใหม่อีกครั้ง ดิฉันควรจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ขอบคุณค่ะ | |
ผู้ตั้งกระทู้ เดียร์ :: วันที่ลงประกาศ 2013-06-19 15:43:45 IP : 202.44.139.173 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3420485) | |
ที่ ตำรวจบอกไว้ ก็มีเหตุผล คุณเลี้ยวขวาตัดหน้า จึงอยู่ในฐานะเสียเปรียบ....หลักการมือยู่ว่า ผู้ประมาทต้องรับผิด ดังนั้นคู่กรณีจึงพยายามจะเรียกร้องค่าเสียหายจากคุณ ซึ่งคุณคงรับไม่ได้ เพราะแม่ก็บาดเจ็บมากมายพอสมควร แต่ทำไมต้องมาชดใช้อีก....ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องส่งฟ้องศาล ก็ยังยืนอยู่บนหลักการเดิม คือ คุณต้องหาเหตุผลมาอ้างอิงว่าคุณไม่ได้ประมาท ซึ่งตามข้อเท็จจริง คุณน่าจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ... ดังนั้นการเจรจาให้เรื่องจบที่โรงพัก คือทางออกที่ดีที่สุด ด้วยความปรารถนาดี ครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม (Manotham-at-thaimail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-06-19 15:53:33 IP : 101.51.191.250 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3420518) | |
กรณีตามคำถามของท่าน ทนายความของเราเห็นว่า มีทางออกสองทางคือ (๑) ท่านตกลงประนีประนอมยอมความที่สถานีตำรวจ (๒) หากท่านเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็รอไปเจรจากันที่ศาล เพราะการไปศาลไม่ได้ยากอย่างที่เข้าใจกัน หากถูกฟ้องยังมีเวลาไตร่ตรองใคร่ครวญว่าข้อเท็จจริงเป็นดังฟ้องหรือไม่ อย่างไร ต่าเสียหายเมื่อถูกฟ้องสามารถให้การปฏิเสธได้ ฝ่ายผู้เสียหายต้องพิสูจน์ อาจไม่ต้องชดใช้เท่าที่เรียกร้องในชั้นสอบสวนก็เป็นได้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin ทนายความ ทนาย ปรึกษากฎหมายฟรี วันที่ตอบ 2013-06-19 19:48:00 IP : 124.120.152.151 |
[1] |
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๖๖ |
Visitors : 267004 |