กรณีตามคำถามของท่าน ทนายความของเราเห็นว่า ท่านสามารถตรวจดูจากคำฟ้องจะสามารถทราบได้ชัดเจนว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง อย่างไร เท่าไร หากไม่ชัดเจน ถือว่าคำฟ้องเคลือบคลุม ท่านอาจสามารถสู้คดีได้ ความชัดเจนอยู่ที่คำฟ้องและหลักฐานการชำระเงินของท่าน

 เรียน ท่านทนายความ

       จากการตรวจสอบคำฟ้อง  ทางไฟแนน เรียกค่าเสียหาย  จำนวนทุนทรัพย์ 429150  บาท  ดังนี้

  ขอให้ศาลโปรดออกหมายเรียกจำเลยมาพิจารณาพิพากษาและบังคับจำเลยตามคำขอต่อไปนี้

                 1.ให้จำเลยทั้งสอง  ร่วมกันหรือแทนกันส่งมอบรถยนต์ คันหมายเลยทะเบียน.....................ที่เช่าซื้อคืนโจทก์ในสถาพเรียบร้อยใช้การได้ดีหากส่งมอบคืนไม่ได้ด้วยเหตุประการใดๆ จำเลยต้องค่วมกันใช้  ราคาแทนเป็นเงิน จำนวน 335000 บาท 

                 2.ให้จำเลย ทั้งสอง ร่วมกันชำระค่าเสียหายเป็นเงิน 94150 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตตราร้อยละ 15 ต่อปี  จนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์ (ขอปรึกษา ค่าเสียหายสมควรหรือไม่)

                 3.ให้จำเลย ทั้งสอง ร่วมกันชำระค่าเสียให้ในอัตราวันละ 350 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์ หรือจนกว่าจะส่งมอบรถยนต์คันที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์ หรือ ชดใช้ราคาแทนแก่โจทก์ (ขอปรึกษา คืน รถ ได้ไม่ครับ)

                4.ให้จำเลย ทั้งสอง ร่วมกันชำระค่าฤชาธรรมเนียมและทนายความแทนโจทก์

และมีเอกสารแนบมาดังนี้

         1.สัญญาเช่าซื้อ

         2. สัญญาค้ำประกัน

        3.หนังสือแจ้งให้ชำระค่าเช่าซื้อ/บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ  ระบุดังนี้ั

                   -ค่าเช่าซื้อ 4 งวด 22831 บาท

                   - ต่าเบีัยปรับล้าช้า 710.93 บาท

                   - ค่าติดตามทวงถาม 3000 บาท

                   รวมเป็นเงินทั้งสิน 26541.93 บาท

กรณีตามคำถามของท่าน ทนายความของเราเห็นว่า การบรรยายฟ้องจะเริ่มด้วย โจทก์เป็นใคร มอบอำนาจให้ใครมาฟ้อง จำเลยเป็นใคร มีความเกี่ยวข้องกันทางกฎหมายอย่างไร เมื่อไร จำเลยปฏิบัติผิดสัญญาอย่างไร ตั้งแต่เมื่อไร ค่าเสียหายเกิดขึ้นอย่างไร เท่าไร หลังจากนั้นจึงมีคำขอท้ายฟ้อง ดังที่ท่านเขียนถามมา 

การโต้แย้งคือการทำคำให้การต่อสู้ว่า คำฟ้องของโจทก์ไม่ถูกต้อง เพราะอะไร เช่น ชำระเงินไปแล้วเท่าไร ควรจะเหลือเท่าไร ค่าเสียหายสูงเกินไป ค่าปรับล่าช้าและค่าติดตามทาวงถามไม่มี ค่าเสียหายอย่างมากไม่เกินวันละ ๒๐ บาท เป็นต้น

ท่านสามารถคืนรถยนต์ได้ แต่ควรมีหลักฐานการรับรถยนต์คืนด้วยว่าเสียหาย หรือไม่เสียหายอย่างไร