ReadyPlanet.com


เงินติดล้อขายหนี้ให้ JMT ไกล่่เกลี่ยที่ไม่เหมือนไกล่เกลี่ย


ผมนำรถ นิสสันเซฟีโร่ จำนำเล่มกับทางเงินติดล้อ เป็นเงิน 90000 โดยผ่อนชำระ เดือนละ 2,880 บาท ก็ผ่อนชำระไปหลายงวด มีครั้งหนึ่งผมชำระเลยเวลา 3 งวด พนักงานติดตามหนี้ก็เก็บเงินค้างชำระโดยให้ชำระที่ 14,000 บาท ต่อมาประมาณช่วงปลายปี 62 พนักงานติดตามหนี้ได้ติดตามทวงถาม ซึ่งผมตกลงกับพนักงานให้ยึดรถเพื่อยกเลิกสัญญาเนื่องจากไม่มีเงินชำระ โดยพนักงานก็แจ้งว่าไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม หลังจากนั้นก็ไม่มีการโทรติดตามเรื่องเงินใดๆอีก

จนกระทั่งประมาณเดือนคุลาคมปี 65 ผมได้รับการติดต่อจากเงินติดล้อ เรื่องการให้ชำระส่วนต่างจากการขายทอดตลาดเมื่อมี 63 เป็นเงิน 53,752.46 บาท ผมจึงแจ้งว่าพนักงานติดตามทวงถามได้แจ้งผมว่าไม่ม่มีอะไรดำเนินการเพิ่มเติม รวมถึงสอบถามว่า ทำไมผมถึงไม่ได้รับแจ้งอะไรในเรื่องการขายทอดตลาด ทั้งทางโทรศัพท์และจดหมาย พนักงานไม่สามารถตอบได้ แต่พยายามมห้ผมชำระหนี้ตามที่แจ้ง โดยผมแจ้งขอเอกสารที่บอกผมเซ็นต์รับสภาพหนี้ กับเอกสารการขายทอดตลาด เพื่อพิจารณาการชำระหนี้ จากนั้นพนักงานก็เงียบหายไป

ต่อมาเมื่อ มกราคม 66 ได้มีพนักงานคนใหม่ซึ่งแจ้งว่าเป็นตัวแทนรับมอบจากเงินติดล้อติดต่อมา ผมก็แจ้งขอเอกสารตามที่เคยแจ้งพนักงานคนเดิม หลังจากนั้นพนักงานก็ส่งสำเนาเอกสารเฉพาะที่แจ้งว่าเป็นเอกสารแจ้งมูลค่าหนี้ส่วนต่างการขายทอดตลาดมาทางไลน์ ซึ่งพบว่าเอกสารที่มีรายละเอียดของมูลหนี้ ผลการขายทอดตลาด และเงินส่วนต่าง แต่ไม่มีการลงนาม ผมจึงยืนยันว่า ผมขอเอกสารตามที่เคยขอทั้งหมดโดยชัดเจน จากนั้นพนักงานก็เงียบหายไป

ต่อมาเมื่อสัปดาห์ก่อนจึงได้รับแจ้งจาก JMT ว่าได้ซื้อหนี้จากเงินติดล้อ และแจ้งว่าโทรมาเพื่อไกล่เกลี่ยเรื่องยอดหนี้ ซึ่งเมื่อสอบถามถึงรายละเอียดต่างๆ พบว่าไม่มีรายละเอียดใด นอกจากมูลค่าหนี้จำนวน 53,752.46 บาท กับใบเสร็จสุดท้ายที่ผมชำระเป็นเงิน 300 บาท (ซึ่งเงิน 300 บาทนี่ ไม่เคยพบว่าผมเคยชำระครั้งใดเป็นเงินจำนวนนี้) การไกล่เกลี่ยไม่เหมือนไกล่เกลี่ย เพราะทุกยอดการชำระที่ผมเสนอ ถูกปฎิเสธทั้งสิ้น และทางพนักงานเป็นคนกำหนดเองให้ผมชำระเพื่อตัดยอดครั้งแรกที่ 10,000 บาท แบ่งเป็นสองครั้ง วันที่ 14 นี้ 5,000 บาท และ 31 นี้ อีก 5,000 บาท จากนั้นให้ชำระที่ 3,000 บาท ต่อเดือน ซึ่งความรู้สึกผมเหมือนโดนบังคับและฝืนใจ และไม่รู้สึกถึงการไกล่เกลี่ยแต่อย่างใด

จากกรณีนี้ ผมเลยอยากขอคำแนะนำจากท่านทนายด้วยครับ ว่าผมสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง แล้วจำเป็นไหมหากผมจำเป็นต้องชำระ ที่ผมจะต้องตัดยอดครั้งแรกเป็นจำนวน 10,000 บาท ตามที่พนักงานแจ้ง แล้วจำเป็นต้องยินยอมชำระ 3,000 บาทต่อเดือน ซึ่งทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าเกินความสามารถของผม 



ผู้ตั้งกระทู้ นฤพนธ์ :: วันที่ลงประกาศ 2023-07-14 04:09:59 IP : 49.229.217.152


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (4474735)

 การถูกเรียกร้องในทางแพ่ง

  เรื่องที่คุณประสบอยู่ ก็เป็นไปตามเส้นทางของคดีแพ่ง คือเมื่อผิดนัด  ก็ยึดรถ   ไปขายทอดตลาด  อ้างว่าได้ราคาต่ำ  จึงมาเรียกค่าส่วนต่างจากผู้ซื้อ ในจำนวนที่สูงพอสมควร  และอาจจะมีการขายหนี้ไปให้ผู้อื่น  เพื่อติดตาม เร่งรัดจากคุณ...การโต้แย้ง ว่าไม่มีหมายใดๆจากศาล ให้ทราบว่าถูกฟ้อง ก็มีช่องทางให้โต้แย้งได้ แต่ต้องใช้ช่องทางศาล   น่าจะไม่คุ้ม....ก็มีช่องทางทำได้  คือการเจรจากับเจ้าหนี้   ขอผ่อนส่งเป็นงวดๆไป...ถ้าไม่ส่งงวด  จุดปลายปลายทางคือการบังคับคดี  คือยึดทรัพย์ของลูกหนี้ไปขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้ ตามคำพิพากษา  แต่ถ้าไม่มีทรัพย์ให้ยึด  ก็ไม่มีความผิดอะไร  แต่เสียเครดิต การทำธุรกรรมทางเงิน อาจมีปัญหา คือถูกปฏิเสธ..  ก็ต้องใจเย็น    ค่อยๆเจรจากันไป  ด้วยความปรารถนาดี ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2023-07-14 12:51:47 IP : 49.228.49.92


ความคิดเห็นที่ 2 (4474751)

 อยากทราบว่า ผมยังไม่เคยถูกฟ้องในคดีนี้ การดำเนินการฟ้อง จะไกล่เกลี่ยก่อนหรือสามารถบังคับคดีได้เลยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น นฤพนธ์ วันที่ตอบ 2023-07-14 15:03:25 IP : 49.229.217.152


ความคิดเห็นที่ 3 (4474798)

 การไกล่เกลี่ย

 ตามข้อเท็จจริง   คุณบอกว่า มีการส่งเอกสารมาว่ามีการบังคับคดี  ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง  แสดงว่ามีการฟ้องศาลแล้ว  เมื่อไม่การใช้หนี้ตามคำพิพากษา   ก็จะมีการบังคับคดีตามมา    การไกล่เกลี่ย ก็ยังสามารถทำได้    ก็ต้องไปติดต่อที่ สนง.บังคับคดี  เพื่อให้เรียกคู่กรณีมาเจรจากัน อาจจะมีช่องทางเจรจากันได้ลงตัว...

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2023-07-15 08:30:39 IP : 49.228.49.92


ความคิดเห็นที่ 4 (4474825)

 กรณีนี้ ยังไม่เคยมีการฟ้องร้องครับ มีการติดต่อพูดคุยทวงถาม จากทางเงินติดล้อ และตัวแทน จนกระทั่งมีการขายหนี้ให้กับ JMT จึงมีการติดต่อมาไกล่เกลี่ย ซึ่งการพูดคุยเหมือนยื่นข้อเสนอมากกว่าการไกล่เกลี่ย เพราะทาง JMT เสนอมาเอง ให้กำเนินการตามเสนอแต่เพียงอย่างเดียว โดยมีคำกล่าวอ้างว่าหารเจรจาไม่สำเร็จ ก็จะส่งเรื่องให้ทางกฏหมายยื่นฟ้องต่อไป

เนื่องจากผมรับราชการ การฟ้องร้องไกล่เกลี่ยไม่มีปัญหา แต่หากมีการยังคับคดีจะมีผลต่องานและมีผลกับสหกรณ์ ซึ่งผมมีข้อสงสัย ดังนี้

1. ผมจะปรับลดชำระเงินทางไหนได้บ้าง เมื่อการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่บริษัทไม่เป็นผล

2. หากผมไม่ได้ชำระ เบื้องต้นหากจะถูกฟ้อง ศาลจะไกล่เกลี่ยก่อน หรือทางบริษัทจะยื่นบังคับคดีได้เลย

3. ผมทำอะไรไม่ได้แล้วหรือไม่ เรื่องเอกสารต่างๆที่ขอไปทางเงินติดล้อก่อนหน้านี้

4. ยอดเงินส่วนต่างนี้ ไม่สามารถบวกดอกเบี้ยเข้าไปได้แล้วหรือไม่ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น นฤพนธ์ วันที่ตอบ 2023-07-15 14:30:24 IP : 182.232.193.207



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๖๖