ReadyPlanet.com


หนี้บัตร Speedy Cash (SCB) แต่ขายหนี้ให้บริษัทฯ เจ ซึ่งทวงหนี้ได้ไร้มารยาทมาก


เรียน คุณทนาย 

เนื่องดิฉันเป็นหนี้ บัตรกดเงินสด ของธ ไทยพาณิชย์ ยอดวงเงินใน บัตร 38000 ขาดการชำระหนี้ตั้งแต่ปี พค 2562 เนื่องจากค้าขายไม่ดี จึงไม่สามารถชำระหนี้ต่อไปได้ และมาเจอโรคระบาดต่ออีกทอด โควิด 19 เริ่มแรกไทยพาณิชย์ก็มีจดหมายติดตามทวงหนี้มาเรื่อย จนขาดหายไปเป็นระยะ และต่อมาก็เป็นบริษัทฯ เจ ครั้งแรกๆก็มีการโทรมาถามเรื่องยอดหนี้บ่อย และพูดจาดีมาตลอดแต่เมื่อกลางเดือนกันยายน 2565 ได้มีพนง บริษัทฯ เจโทรมาบอกว่าหากไม่ชำระจะส่งหมายศาลมาให้แต่ ก็ยังไม่มีหมายศาลใดๆมาถึงบ้านแต่อย่างใด 

ล่าสุด พนง บริษัทฯเจ ได้โืทรมาแจ้งว่ายอดหนี้ตอนนี้อยู่ 4x,xxx บาท จะจ่ายได้ไหมเมื่อไร และทางดิฉันก็ตอบว่ายังไม่มีพอจะจ่าย พนง แจ้งว่าหาที่ไหนมาจ่ายก่อนไม่ได้หรอ ดิฉันแจ้งว่าไม่สามารถหาได้ค่ะ แล้วรู้ไหมว่าถ้าไปศาลต้องจ่ายอีกเท่าหนึ่งจากยอดหนี้ เดี๋ยวจะส่งจนท.ลงพื้นที่ไป 

แต่คำพูดของพนง ไม่ได้สุภาพถึงขนาดนี้นะคะ เป็นการดูหมิ่นเราทำนองว่า ยอดหนี้เท่านี้ยังไม่มีจ่ายแล้วไปศาลจะจ่ายได้หรอ ซึ่งดิฉันก็ไม่พูดอะไรได้แต่ฟังการพูดจาที่ไร้มารยาทของพนง บริษัทฯเจ แล้วเขาก็ตัดสายไปเลยโดยไม่มีการพูดขอบคุณหรืออะไรกับเราเหมือน ที่บริษัทฯอื่นทำ

คำถามค่ะ 1 .การลงพื้นที่ไปหาข้อมูลหรือไปบ้านเราตามที่อยู่ที่ให้ไว้ ในเมื่อยังติดต่อเราได้อยู่ วัตถุประสงค์เพื่ออะไรหรือคะ ทำให้ญาติพี่น้องเราตกใจ เพื่อให้เขาหาเงินจ่ายแทน ให้หรือคะ ทำได้มากน้อยเพียงใดเรามีวิธีแก้ไขอย่างไร 

               2. ถ้าหมายศาลมาถึง เราอยากสู้คดี ต้องเขียนคำสู้คดี ทำก่อนจะถึงวันนัดขึ้นศาลไหมคะ หรือต้องทำตอนไหน หรือต้องบอกศาลว่าเราจะสู้คดีแล้วศาลนัดอีกรอบไหม หรืออย่างไรคะ

               3. แล้วขณะที่เราสู้คดีอยู่ บริษัทฯเจ มีการส่งพนง ไปหาเราที่บ้านอีก เราจะดำเนินการอย่างไรคะ ด้วยวิธีเด็ดขาด

                                  ขอขอบพระคุณค่ะ ที่กรุณาตอบเมลล์

                                               

                                                                            ขอแสดงความนับถือ

 

                                                                        นางสาวทรรศนีย์ พุทธซ้อน

               

 



ผู้ตั้งกระทู้ นางสาวทรรศนีย์ พุทธซ้อน (sunday15-dot-oct-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2022-10-04 09:42:37 IP : 184.82.15.163


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (4382297)

การทวงถามหนี้

ตอบ.1.การไปสืบหาที่อยู่ ก็คงเข้าข่ายการคุมคาม ในการทวงหนี้...การทวงถามหนี้กับผู้อื่นที่ไม่ใช่ลูกหนี้ ต้องห้าม ตาม พรบ.การทวงถามหนี้ฯ ม.8  ถ้าฝ่าฝืนจะมีโทษตาม ม.39  คือจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท...และมีประกาศฯ  ห้ามทวงถามหนี้เกินวันละ 1 ครั้ง...แต่การใช้กฎหมายในเรื่องการทวงถามหนี้ ดูแล้ว ไม่ค่อยได้ผล  เพราะผู้ทวงถามมักไม่เกรงกลัว เพราะมีโทษน้อย  แม้จะแจ้งความ  ก็คงถูกปล่อยตัวมาสู้คดีได้ ในเวลาไม่นานนัก และน่าจะไม่ถูกจำคุก... ผู้ทวงถามก็มักจะยังถูกคุกคามอยู่เสมอ

      2.ถ้ามีหมายศาลมาว่าถูกฟ้อง   ก็ควรไปตามหมายนัด  อย่าผิดนัด ก็ใช้วิธีเจรจาขอผ่อนชำระหนี้เป็นงวดๆไป  คดีน่าจะจบลงด้วยดี   แต่...ถ้าไม่ศาลตามนัด   เจ้าหนี้ก็มีวิธีขอให้มีการพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้(การขาดนัด)  ผลคือศาลคงให้ใช้หนี้เต็มตามที่ฟ้อง  ถ้าไม่ใช้หนี้  ก็คงมีการบังคับคดี โดยการยึดทรัพย์ไปขาดทอดตลาดเพือใช้หนี้ได้  ถ้าปล่อยถึงวันนั้นคงยุ่งยากพอสมควร....แต่ถ้าไม่มีทรัพย์สินให้ยึด เจ้าหนี้ก็คงทำอะไรไม่ได้  แต่ย่อมสูญเสียเครดิต

    3.ถ้ามีการคุกคาม  ก็แจ้งความดำเนินคดีได้  อาจจะพอช่วยได้บ้างตามสมควร

ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2022-10-16 08:09:14 IP : 223.205.248.123



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๖๖