ข้อเท็จจริงในคดีนี้ จำเลยก่อสร้างต่อเติมอาคารโรงรถโดยไม่ได้รับอนุญาตและถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร จำเลยให้การรับสารภาพทั้งในชั้นสวบสวนและชั้นพิจารณาของศาล ศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลยเป็นเงินค่าปรับสูงมากกว่าเพื่อนบ้านซึ่งจำเลยเห็นว่าศาลชั้นต้นน่าจะใช้ดุลพินิจคลาดเคลื่อน เพราะว่าคดีของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันมีลักษณะความผิดที่เหมือนกันคือข้อหาเดียวกัน สถานที่เกิดเหตุเดียวกัน ศาลที่พิพากษาลงโทษเป็นศาลเดียวกัน คำพิพากษาของศาลน่าจะมีผลเหมือนกันโดยไม่ควรแตกต่างกันมากเหลือเกินดังที่ปรากฏ จำเลยจึงอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษา โดยใช้แบบพิมพ์ของศาลหมายเลข (๓๑) อุทธรณ์ ซึ่งมีข้อความดังนี้
ข้อ ๑. คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔ , ๔๐ , ๔๒ , ๖๖ ทวิ , พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๑๑ , ๒๓
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๐ (๑) , (๓) , ๔๒ , ๖๖ ทวิ ปรับ ๔๐,๐๐๐ บาท และปรับรายวัน วันละ ๒๐๐ บาท เป็นจำนวน ๑,๔๐๗ วัน เป็นเงินจำนวน ๒๘๑,๔๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ปรับ ๒๐,๐๐๐ บาทและปรับรายวันวันละ ๑๐๐ บาท เป็นจำนวน ๑,๔๐๗ วัน เป็นเงินจำนวน ๑๔๐,๗๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ , ๓๐
ข้อ ๒. จำเลยยังไม่เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาลงโทษจำเลยดังกล่าว และด้วยความเคารพ จำเลยจึงขออุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นดังจะกล่าวต่อไปนี้
การที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ ๒๕๒๒ มาตรา ๔๐ (๑) , (๓) , ๔๒ , ๖๖ทวิ ปรับ ๔๐,๐๐๐ บาท และปรับรายวันวันละ ๒๐๐ บาทนั้น จำเลยยังมิเห็นพ้องด้วย จำเลยเห็นว่าศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยหนักเกินไป เนื่องจากศาลชั้นต้นนี้เคยพิพากษาลงโทษบุคคลอื่นที่ถูกฟ้องในการกระทำความผิดข้อหาอย่างเดียวกันกับจำเลยโดยลงโทษไม่หนักถึงขนาดนี้ เช่น คดีหมายเลขดำที่ ...../๒๕๕๒ , คดีหมายเลขแดงที่ ...../๒๕๕๒ ของศาลชั้นต้นนี้ คดีระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด โจทก์ นาย ว. จำเลย รายละเอียดปรากฏตามภาพถ่ายสำเนาคำฟ้องและสำเนาคำพิพากษาดังกล่าว เอกสารท้ายอุทธรณ์หมายเลข ๑ และ ๒ ซึ่งคดีดังกล่าว เหตุเกิดที่บ้านเลขที่.....ซอยสุขุมวิท ๑๐๓ แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร ส่วนคดีนี้เหตุเกิดที่บ้านเลขที่.....ซอยสุขุมวิท ๑๐๓ แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร คดีมีความผิดข้อหาอย่างเดียวกัน เหตุเกิดในสถานที่ซึ่งเป็นอาคารติดต่อกัน แต่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ นาย ว. จำเลยในคดีที่ยกขึ้นอ้างดังกล่าวซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของจำเลยโดยระวางโทษเพียงปรับ ๒๐,๐๐๐ บาทและปรับรายวันอีกวันละ ๕๐ บาท แต่ในคดีที่จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษานี้ ศาลชั้นต้นระวางโทษจำเลยสูงกว่ามากโดยปรับ ๔๐,๐๐๐ บาท และปรับรายวันวันละ ๒๐๐ บาทนั้น จำเลยเห็นว่าศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจที่คลาดเคลื่อน กล่าวคือจำเลยเห็นว่าคดีที่จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษานี้กับคดีที่จำเลยยกขึ้นอ้างตามเอกสารท้ายอุทธรณ์นั้นมีลักษณะความผิดที่เหมือนกันคือข้อหาเดียวกัน สถานที่เกิดเหตุเดียวกัน ศาลที่พิพากษาลงโทษเป็นศาลเดียวกัน คำพิพากษาของศาลน่าจะมีผลเหมือนกันโดยไม่ควรแตกต่างกันมากเหลือเกินดังที่ปรากฏ จำเลยจึงเห็นว่าศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจที่คลาดเคลื่อนไปจากที่ควรจะเป็น โดยจำเลยเห็นว่าหากศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยโดยวางโทษปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท และปรับรายวันอีกวันละ ๕๐ บาท น่าจะเป็นการใช้ดุลพินิจลงโทษจำเลยอย่างถูกต้องและเป็นธรรมมากว่าการที่ศาลชั้นต้นวางโทษจำเลยโดยปรับ ๔๐,๐๐๐ บาท และปรับรายวัน วันละ ๒๐๐ บาท
อาศัยเหตุผลดังได้ประทานกราบเรียนต่อศาลอุทธรณ์ภาค ๑ ที่เคารพมาข้างต้น ขอศาลอุทธรณ์ภาค ๑ ได้โปรดพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นพิพากษาปรับจำเลยเพียง ๒๐,๐๐๐ บาท และปรับรายวันอีกวันละ ๕๐ บาท เท่านั้น
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
โปรดดู คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ (พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร) ชนะคดี