ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีนี้คือ เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๖ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ตเวอร์ค เวอร์วิสเซ็ส  จำกัด (มหาชน)  ซึ่งซื้อบัญชีลูกหนี้ ๒ กลุ่มมาจาก บริษัท อีซี่บาย จำกัด (มหาชน) คือ (๑) สินเชื่อธุรกิจเงินผ่อน รวมทั้งสิ้น ๘,๔๔๐ ราย และ (๒) สินเชื่อธุรกิจเงินผ่อน รวมทั้งสิ้น ๑๓,๓๔๒ ราย ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย (ผู้ซื้อ) เป็นคดีผู้บริโภคที่ศาลแขวงดอนเมือง เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๗ เป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ.๓๐๑๓/๒๕๕๗ เรื่อง ผิดสัญญากู้ยืมเงิน , เรียกให้ชำระเงินต้นจำนวน ๔๗,๒๓๔.๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยจำนวน ๖๖,๖๙๗.๐๐ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑๑๓,๙๓๑.๐๐ บาท

         ศาลแขวงดอนเมืองนัดพิจารณาไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๐๐ น.

         เราได้จัดเตรียมเอกสารให้จำเลยเพื่อยื่นคำคู่ความต่อสู้คดีต่อศาลดังนี้ (๑) คำให้การจำเลย , (๒) คำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเบื้องต้นข้อกฎหมาย และ (๓) บัญชีพยานจำเลย โดยเมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ จำเลยได้ไปยื่นคำคู่ความดังกล่าวต่อศาลแขวงดอนเมืองด้วยตนเอง 

         การยื่นคำให้การต่อสู้คดีดังกล่าวเป็นการตั้งประเด็นข้อกฎหมายที่เป็นข้อชี้ขาดผลคดีว่าชนะหรือแพ้แล้ว ซึ่งหลังจากนั้นก็เพียงแต่รอถึงวันนัดพิจารณาคดีของศาลเท่านั้น

         ศาลแขวงดอนเมืองได้เลื่อนการพิจารณาคดีไป โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๙.๐๐ น. 

         ในวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๗  ศาลแขวงดอนเมืองได้มีคำพิพากษาว่ายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๒๙๗๖/๒๕๕๗