เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) ได้ทำสัญญาโอนขายสิทธิเรียกร้อง (สิทธิเรียกร้องตามสัญญากู้เงิน) ให้แก่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์การ จำกัด ซึ่งหนี้ตามสัญญากู้เงิน เพื่อมาฟ้องร้องเนื่องจากได้รับโอนสินทรัพย์มาและตามคำสั่งกระทรวงการคลังที่ ๑๑๕๑/๒๕๕๔ คือ 

               เมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๗ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์การ จำกัด   ซึ่งทำสัญญารับโอนซื้อสิทธิเรียกร้อง (สิทธิเรียกร้องตามสัญญากู้เงิน) มาจาก ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน)   ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลย (ผู้ค้ำประกัน) เป็นคดีผู้บริโภคที่ ศาลแพ่ง คดีหมายเลขดำที่ ผบ.๓๙๕๑/๒๕๕๗ เรื่อง ผิดสัญญาค้ำประกัน โอนสิทธิเรียกร้อง ขอให้ชำระเงินต้นจำนวน ๒๘๔,๙๑๗.๗๘ บาท ดอกเบี้ยผิดนัดจำนวน ๗๕๔,๕๒๑.๓๘ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๐๓๙,๔๓๙.๑๖ บาท 

               จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันติดต่อเราพียงสองสามวันก่อนที่ศาลจะนัดพิจารณาไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๓๐ น. 

               เราได้แนะนำจำเลยผู้ค้ำประกันให้ขออนุญาตต่อศาลเพื่อเลื่อนคดีไปก่อนและขออนุญาตยื่นคำให้การภายใน ๓๐ วัน เพื่อเราจะให้คำแนะนำที่เหมาะสม เพราะเรายังไม่ได้เห็นคำฟ้องของโจทก์ และเราได้จัดเตรียมคำร้องขอเลื่อนคดีส่งให้จำเลยผู้ค้ำประกันทางจดหมายอิเลกทรอนิกส์ (e-mail)

ในวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๓๐ น. ซึ่งศาลนัดพิจารณาไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยาน จำเลยไปยื่นคำร้องขออนุญาตเลื่อนคดีและขออนุญาตยื่นคำให้การด้วยตนเอง ศาลอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การได้จนถึงวันที่ ๑๕ กรกาคม ๒๕๕๘ และให้เลื่อนคดีไปนัดสืบพยานในวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ 

               เราได้จัดเตรียมเอกสารให้จำเลยผู้ค้ำประกัน เพื่อยื่นคำคู่ความต่อสู้คดีต่อศาลดังนี้ (๑) คำให้การจำเลย , (๒) คำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเบื้องต้นข้อกฎหมาย และ (๓) บัญชีพยานจำเลย โดยเมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘  จำเลยได้ไปยื่นคำคู่ความดังกล่าวต่อศาลแพ่งด้วยตนเอง การยื่นคำให้การต่อสู้คดีดังกล่าวเป็นการตั้งประเด็นข้อกฎหมายที่เป็นข้อชี้ขาดผลคดีว่าชนะหรือแพ้แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ก็เพียงแต่รอถึงวันนัดพิจารณาคดีของศาลเท่านั้น              

               วันนัดสืบพยานในวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ ศาลได้ทำการสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว โดยจำเลยไม่สืบพยาน และศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๘ 

               คดีนี้ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๘ ศาลได้มีคำพิพากษาว่ายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ผบ.๓๖๙๔/๒๕๕๘  

               (คดีนี้โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาเมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๘ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นอุทธรณ์)