เมื่อวันที่  ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โจทก์ ได้ยื่นฟ้อง จำเลยที่ ๑ (ผู้กู้) และ จำเลยที่ ๒ (ผู้ค้ำประกัน) เป็นคดีผู้บริโภคต่อศาลจังหวัดมีนบุรี คดีหมายเลขดำที่ ผบ.๑๙๐๐/๒๕๕๕ เรื่อง ผิดสัญญากู้ยืม ผิดสัญญาค้ำประกันและเรียกค่าเสียหาย เป็นเงินต้นจำนวน ๑๑,๐๗๖.๐๓ บาท และเบี้ยปรับจำนวน ๑๙๘๗๗.๖๘ บาท รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น ๓๐,๙๕๓.๗๑ บาท

       ศาลจังหวัดมีนบุรีนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕ เวลา ๙.๐๐ น . ถึงวันนัดศาลพิพากษาว่า ยกฟ้องค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๗๓๕๖/๒๕๕๕

       โจทก์อุทธรณ์คำพิพากษาศาลจังหวัดมีนบุรี ลงวันที่ ๓๑ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕

       ศาลอุทธรณ์รับวันที่ ๒๙ เดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖ เรื่อง ยืม ค้ำประกัน ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ ๑๔ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๖ โดยอ่านเมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗ พิพากษาว่า "ศาลอุทธรณ์แผนกคดีผู้บริโภคตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว.....ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมานั้นศาลอุทธรณ์แผนกคดีผู้บริโภคเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ เป็นคดีหมายเลขดำที่ ผบ. ๗๓๕/๒๕๕๖ คดีหมายเลขแดงที่ ๒๐๕๔๓/๒๕๕๖

       องค์คณะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ คือ นายพงษ์ศักดิ์ อนันธวัช นายอมรเทพ การะโชติ นายจำรัส เพ็ชรสุวรรณ

       (หมายเหตุ:คำพิพากษาฉบับเต็มมีจำนวน ๘ หน้า)