เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๖ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ ๑ (ผู้กู้) และจำเลยที่ ๒ (ผู้ค้ำประกัน) เป็นคดีผู้บริโภคที่ศาลแขวงนนทบุรี คดีหมายเลขดำที่ ผบ.๑๙๙๒/๒๕๕๖ เรื่อง ผิดสัญญากู้ยืม , ค้ำประกันและเรียกค่าเสียหาย ขอให้ชำระเงินต้นจำนวน ๓๒,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ยจำนวน ๓,๑๖๙.๓๒ บาทและเบี้ยปรับจำนวน ๕๖,๓๖๓.๘๔ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๙๑,๕๓๓.๑๖ บาท
ศาลนัดให้จำเลยทั้งสองไปศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๖ เวลา ๙.๐๐ น.
เราได้จัดเตรียมเอกสารให้จำเลยทั้งสองเพื่อยื่นคำคู่ความต่อสู้คดีต่อศาลดังนี้ (๑) คำให้การจำเลยที่ ๑ , (๒) คำให้การจำเลยที่ ๒ , (๓) คำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเบื้องต้นข้อกฎหมาย , (๔) บัญชีพยานจำเลยที่ ๑ , (๕) บัญชีพยานจำเลยที่ ๒ และ (๖) ใบมอบฉันทะจำเลยที่ ๒ โดยจำเลยที่ ๑ ได้ไปยื่นคำให้คู่ความดังกล่าวต่อศาลแขวงนนทบุรีด้วยด้วยตนเองในวันนัด โดยจำเลยที่ ๑ พร้อมที่จะให้การเป็นพยานด้วยตนเอง ซึ่งเราได้จัดเตรียมคำให้การพยานจำเลยที่ ๑ (คำเบิกความ)ไว้พร้อมด้วยแล้ว หากต้องมีการสืบพยานจำเลย
เมื่อถึงวันนัดพิจารณาในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๖ เวลา ๙.๐๐ น. จำเลยที่ ๑ ได้ไปศาล ในวันนัดพิจารณาคดีดังกล่าว แต่โจทก์ขออนุญาตเลื่อนคดี อ้างว่าเอกสารไม่พร้อม ศาลอนุญาตให้เลื่อนคดีไปนัดสืบพยานในวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลา ๙.๐๐ น.
เมื่อถึงวันนัดพิจารณาวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลา ๙.๐๐ น. จำเลยทั้งสองไม่ได้ไปศาล เพราะว่าได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีโดยตั้งประเด็นที่เป็นข้อชี้ขาดผลคดีว่าชนะหรือแพ้แล้ว ในวันนัดพิจารณาคดีดังกล่าวศาลมีคำสั่งว่าจำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาและให้โจทก์นำพยานเข้าสืบฝ่ายเดียว คดีเสร็จการพิจารณา ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ เวลา ๙.๐๐ น.
ในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา ศาลพิพากษาว่า ยกฟ้องค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๓๕๐๑/๒๕๕๖