เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โจทก์ ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ ๑ (ผู้กู้) และจำเลยที่ ๒ (ผู้ค้ำประกัน) เป็นคดีผู้บริโภค ที่ศาลแขวงนครปฐม คดีหมายเลขดำที่ ผบ.๒๔๘๖/๒๕๕๕ เรื่อง ผิดสัญญากู้ยืม ค้ำประกัน เรียกค่าเสียหาย ขอให้ชำระเงินต้นจำนวน ๑๑,๐๐๘.๗๕ บาท และเบี้ยปรับจำนวน ๒๐,๒๒๒.๙๒ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๓๑,๒๓๑.๖๗ บาท
ศาลนัดพิจารณาไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๕ เวลา ๐๙.๐๐ น. เราได้จัดเตรียมเอกสารให้จำเลยทั้งสองเพื่อยื่นคำคู่ความต่อสู้คดีต่อศาลดังนี้ (๑) คำให้การจำเลยที่ ๑ , (๒) คำให้การจำเลยที่ ๒ , (๓) คำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเบื้องต้นข้อกฎหมาย , (๔) บัญชีพยานจำเลยที่ ๑ , (๕) บัญชีพยานจำเลยที่ ๒ และ (๖) ใบมอบฉันทะจำเลยที่ ๒ โดยเมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๕ (วันนี้) จำเลยที่ ๑ ได้ไปยื่นคำคู่ความดังกล่าวต่อศาลแขวงนครปฐมด้วยตนเอง
เมื่อถึงวันนัดพิจารณาวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๕ เวลา ๙.๐๐ น. จำเลยทั้งสองไม่ได้ไปศาล เพราะได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีโดยตั้งประเด็นที่เป็นข้อชี้ขาดผลคดีว่าชนะหรือแพ้แล้ว ในวันนัดพิจารณาคดีดังกล่าวศาลพิพากษาว่า ยกฟ้องค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๒๗๘๔/๒๕๕๕