เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โจทก์ ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ ๑ (ผู้กู้) และจำเลยที่ ๒ (ผู้ค้ำประกัน) เป็นคดีผู้บริโภค ที่ศาลจังหวัดจันทบุรี คดีหมายเลขดำที่ ผบ.๑๓๓/๒๕๕๕ เรื่อง ผิดสัญญากู้ยืมเงินและสัญญาค้ำประกัน ขอให้ชำระเงินต้นจำนวน ๒,๙๗๙.๐๓ บาท ดอกเบี้ยจำนวน ๒๘๖.๐๗ บาทและเบี้ยปรับจำนวน ๔,๒๙๑.๐๓ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๗,๕๕๖.๑๐ บาท
ศาลนัดพิจารณาไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลา ๙.๐๐ น. เราได้จัดเตรียมเอกสารให้จำเลยทั้งสองเพื่อยื่นคำคู่ความต่อสู้คดีต่อศาลดังนี้ (๑) คำให้การจำเลยที่ ๑ , (๒) คำให้การจำเลยที่ ๒ , (๓) คำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเบื้องต้นข้อกฎหมาย , (๔) บัญชีพยานจำเลยที่ ๑ , (๕) บัญชีพยานจำเลยที่ ๒ และ (๖) ใบมอบฉันทะจำเลยที่ ๒ โดยเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๕ จำเลยที่ ๒ ได้ไปยื่นคำให้คู่ความดังกล่าวต่อศาลจังหวัดจันทบุรีด้วยตนเอง
ในวันนัดคือวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๕ จำเลยทั้งสองไม่ไปศาล โดยขาดนัดพิจารณาเพราะได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีโดยตั้งประเด็นที่เป็นข้อชี้ขาดผลคดีว่าชนะหรือแพ้แล้ว ต่อมาศาลเลื่อนนัดพิจารณาเป็นวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๕ และนัดพิจารณาอีกครั้งเป็นวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ และศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ เวลา ๙.๐๐ น .
วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ เวลา ๙.๐๐ น ซึ่งเป็นวันนัดฟังคำพิพากษา ศาลพิพากษาว่า ยกฟ้องค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ผบ.๕๙๑/๒๕๕๕