เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โจทก์ ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ ๑ (ผู้กู้) และจำเลยที่ ๒ (ผู้ค้ำประกัน) เป็นคดีผู้บริโภค ที่ศาลจังหวัดพัทยา คดีหมายเลขดำที่ ผบ.๔๗๔/๒๕๕๕ เรื่อง ผิดสัญญากู้ยืม ค้ำประกัน ขอให้ชำระเงินต้นจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท ดอกเบี้ยจำนวน ๒,๑๘๔.๑๑ บาท และเบี้ยปรับจำนวน ๓๒,๗๖๑.๖๔ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๕๔,๙๔๕.๗๕ บาท
ศาลนัดให้จำเลยทั้งสองไปศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เวลา ๙.๐๐ น. เราได้จัดเตรียมเอกสารให้จำเลยทั้งสองเพื่อยื่นคำคู่ความต่อสู้คดีต่อศาลดังนี้ (๑) คำให้การจำเลยที่ ๑ , (๒) คำให้การจำเลยที่ ๒ , (๓) คำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเบื้องต้นข้อกฎหมาย , (๔) บัญชีพยานจำเลยที่ ๑ , (๕) บัญชีพยานจำเลยที่ ๒ และ (๖) ใบมอบฉันทะจำเลยที่ ๒ โดยจำเลยที่ ๑ ได้ไปยื่นคำให้คู่ความดังกล่าวต่อศาลจังหวัดพัทยาด้วยตนเองในวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๕
เมื่อถึงวันนัดพิจารณาวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๓.๓๐ น. จำเลยทั้งสองไม่ได้ไปศาล เพราะได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีโดยตั้งประเด็นที่เป็นข้อชี้ขาดผลคดีว่าชนะหรือแพ้แล้ว โจทก์จึงนำพยานเข้าสืบฝ่ายเดียว
ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๐๐ น. ในวันดังกล่าวศาลพิพากษาว่า ยกฟ้องค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๑๖๑๗/๒๕๕๕