เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ ๑ (ผู้กู้) และจำเลยที่ ๒ (ผู้ค้ำประกัน) เป็นคดีผู้บริโภคที่ศาลจังหวัดนาทวี คดีหมายเลขดำที่ ผบ.๑๒๐๓/๒๕๕๕ เรื่อง ผิดสัญญากู้ยืมเงิน ค้ำประกันและเรียกเบี้ยปรับ ขอให้ชำระเงินต้นจำนวน ๑๗,๕๐๕.๗๑ บาทดอกเบี้ยจำนวน ๑,๘๘๑.๙๘ บาทและเบี้ยปรับจำนวน ๒๘,๒๒๙.๗๖ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๔๗,๖๑๗.๔๕ บาท
ศาลนัดให้จำเลยทั้งสองไปศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๖ เวลา ๙.๐๐ น.
เราได้จัดเตรียมเอกสารให้จำเลยทั้งสองเพื่อยื่นคำคู่ความต่อสู้คดีต่อศาลดังนี้ (๑) คำให้การจำเลยที่ ๑ , (๒) คำให้การจำเลยที่ ๒ , (๓) คำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเบื้องต้นข้อกฎหมาย , (๔) บัญชีพยานจำเลยที่ ๑ , (๕) บัญชีพยานจำเลยที่ ๒ และ (๖) ใบมอบฉันทะจำเลยที่ ๒ โดยจำเลยที่ ๑ ได้ไปยื่นคำให้คู่ความดังกล่าวต่อศาลจังหวัดนาทวีด้วยด้วยตนเองในวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๖ โดยยื่นเฉพาะเอกสารของจำเลยที่ ๑ เท่านั้น
เมื่อถึงวันนัดพิจารณาวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๖ เวลา ๙.๐๐ น. จำเลยทั้งสองไม่ได้ไปศาล เพราะได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีโดยตั้งประเด็นที่เป็นข้อชี้ขาดผลคดีว่าชนะหรือแพ้แล้ว ในวันนัดพิจารณาคดีดังกล่าวศาลมีคำสั่งว่าจำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาและให้สืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว โจทก์นำพยานเข้าสืบพยานพร้อมส่งเอกสารเป็นพยานจำนวน ๑๗ ฉบับ คดีเสร็จการพิจารณา ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๓.๓๐ น.
ในวันนัดฟังคำพิพากษา ศาลพิพากษาว่า ยกฟ้องค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๕๐/๒๕๕๖