เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โจทก์ ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ ๑ (ผู้กู้) และจำเลยที่ ๒ (ผู้ค้ำประกัน) เป็นคดีผู้บริโภค ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี คดีหมายเลขดำที่ ผบ.๑๒๑๔๖/๒๕๕๔ เรื่อง ผิดสัญญากู้ยืม ค้ำประกัน ขอให้ชำระเงินต้นจำนวน ๓๒,๐๐๐ บาทและเบี้ยปรับจำนวน ๕๘,๘๓๔.๓๓บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๙๐,๘๓๘.๓๓ บาท ศาลนัดให้จำเลยทั้งสองไปศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เวลา ๙.๐๐ น.
เราได้จัดเตรียมเอกสารให้จำเลยทั้งสองเพื่อยื่นคำคู่ความต่อสู้คดีต่อศาลดังนี้ (๑) คำให้การจำเลยที่ ๑ , (๒) คำให้การจำเลยที่ ๒ , (๓) คำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเบื้องต้นข้อกฎหมาย , (๔) บัญชีพยานจำเลยที่ ๑ , (๕) บัญชีพยานจำเลยที่ ๒ และ (๖) ใบมอบฉันทะจำเลยที่ ๑ โดยจำเลยที่ ๒ ได้ไปยื่นคำให้คู่ความดังกล่าวต่อศาลจังหวัดมีนบุรีด้วยตนเองในวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕
เมื่อถึงวันนัดพิจารณาวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เวลา ๙.๐๐ น. จำเลยทั้งสองไม่ได้ไปศาล เพราะได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีโดยตั้งประเด็นที่เป็นข้อชี้ขาดผลคดีว่าชนะหรือแพ้แล้ว
ในวันนัดพิจารณาคดีดังกล่าวศาลพิพากษาว่า ยกฟ้องค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๑๗๔๒/๒๕๕๕