เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โจทก์ ได้ยื่นฟ้องจำเลยที่ ๑ (ผู้กู้) และจำเลยที่ ๒ (ผู้ค้ำประกัน) เป็นคดีผู้บริโภค ที่ศาลจังหวัดพระโขนง คดีหมายเลขดำที่ ผบ.๑๓๙๒/๒๕๕๕ เรื่อง ผิดสัญญากู้ยืม ค้ำประกัน ขอให้ชำระเงินต้นจำนวน ๒๐,๐๐๐ บาทพร้อมเบี้ยปรับจำนวน ๓๒,๗๗๘.๐๘ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๕๒,๗๗๘.๐๘ บาท
ศาลนัดพิจารณาไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๓.๐๐ น.
เราได้จัดเตรียมเอกสารให้จำเลยทั้งสองเพื่อยื่นคำคู่ความต่อสู้คดีต่อศาลดังนี้ (๑) คำให้การจำเลยที่ ๑ , (๒) คำให้การจำเลยที่ ๒ , (๓) คำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเบื้องต้นข้อกฎหมาย , (๔) บัญชีพยานจำเลยที่ ๑ , (๕) บัญชีพยานจำเลยที่ ๒ และ (๖) ใบมอบฉันทะจำเลยที่ ๒ โดยเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๕ จำเลยที่ ๑ ได้ไปยื่นคำให้คู่ความดังกล่าวต่อศาลจังหวัดพระโขนงด้วยตนเอง
ในวันนัดจำเลยทั้งสองไม่ได้ไปศาล เพราะได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีโดยตั้งประเด็นที่เป็นข้อชี้ขาดผลคดีว่าชนะหรือแพ้แล้ว ในวันนัดโจทก์นำพยานเข้าสืบ ๑ ปากส่งเอกสารเป็นพยานศาลหมาย จ.๑ – จ.๒๐ รวม ๒๐ ฉบับ
ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๕ เวลา ๙.๐๐ น . ถึงวันนัดศาลพิพากษาว่า ยกฟ้องค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ๑๙๐๑/๒๕๕๕