.jpg) |
ข้อ ๑. โจทก์เป็นบุคคลผู้ได้รับความเสียหายแก่ร่างกายและอนามัยจากการกระทำละเมิดของจำเลยที่ ๑
จำเลยที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ คันหมายเลขทะเบียนที่ ฎม xxxx กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นยานพาหนะอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกลที่เฉี่ยวชนโจทก์จนได้รับความเสียหาย
จำเลยที่ ๒ เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทมหาชนจำกัด จดทะเบียน ณ สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ทะเบียนเลขที่๐๑๐๕๔๙๐๐๐๐xxx เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๕ ใช้ชื่อว่า บริษัท อุสาหะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีวัตถุประสงค์ในการ ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยทุกประเภท รายละเอียดปรากฏตามสำเนาหนังสือรับรองสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เอกสารท้ายคำฟ้อง โดยจำเลยที่ ๒ เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ คันหมายเลขทะเบียนที่ ฎม xxxx กรุงเทพมหานคร ที่จำเลยที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่และเฉี่ยวชนกระทำละเมิดต่อโจทก์
ข้อ ๒. เมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลาประมาณ ๑๔.๒๐ น. จำเลยที่ ๑ ได้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ คันหมายเลขทะเบียนที่ ฎม xxxx กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นการครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล พุ่งตรงเข้าเฉี่ยวชนทางด้านหลังของโจทก์อย่างแรงขณะที่โจทก์กำลังยืนหันหลังให้จำเลยที่ ๑ และเก็บของอยู่ที่ด้านท้ายรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ คันหมายเลขทะเบียน ภล xxxx กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่ในช่องจอดรถยนต์ที่ที่เกิดเหตุคือห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขาบางบอน ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร ทำให้กระดูกต้นขาด้านซ้ายของโจทก์หักทันที อันเป็นการจงใจหรือประมาทเลินเล่อกระทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ร่างกายและอนามัย กล่าวคือ ผลจากการขับขี่รถยนต์ของจำเลยที่ ๑ ที่เฉี่ยวชนโจทก์ดังกล่าวทำให้โจทก์ต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลบางประกอกและได้รับการผ่าตัดอย่างฉุกเฉินทันทีในวันเดียวกันนั้น โจทก์ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา ๗ วันและต่อจากนั้นก็ออกจากโรงพยาบาลมารักษาตัวต่อที่บ้านอีกหกเดือนแผลจากการผ่าตัดก็ยังไม่หายดี แต่ผลจากการถูกรถยนต์ที่จำเลยกระทำละเมิดเฉี่ยวชนโจทก์นั้นทำให้โจทก์ต้องทุพลภาพหรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต การกระทำละเมิดของจำเลยที่ ๑ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ร่างกาย อนามัยและค่าสินไหมทดแทนที่ต้องขาดประโยชน์ในการทำมาหาได้เพราะไม่สามารถประกอบการงานได้ ดังนี้
(๑) ค่าเสียหายแก่อนามัยของโจทก์ที่โจทก์ต้องได้รับการผ่าตัดเอาเหล็กออกจากร่างกายอีกครั้งหนึ่ง จำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท
(๒) ค่าเสียหายแก่ร่างกายโจทก์จากการที่โจทก์ต้องทุพลภาพหรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิตต้องเดินขาเขยก เดินไม่ตรงปกติเหมือนเดิมตลอดชีวิต ทำให้เสียความสามารถประกอบการงานสิ้นเชิงหรือแต่บางส่วนทั้งในเวลาปัจจุบันและในอนาคต จำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท
(๓) ค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์ทำมาหาได้เพราะไม่สามารถประกอบการงานได้เป็นเวลา หกเดือน เดือนละสองหมื่นบาท เป็นจำนวน ๑๒๐,๐๐๐ บาท
รวมเป็นค่าเสียหายทั้งสิ้น ๙๒๐,๐๐๐ บาท (เก้าแสนสองหมื่นบาทถ้วน)
ภายหลังจากที่จำเลยที่ ๑ ได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อด้วยการครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะอันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล กระทำโดยผิดกฎหมายทำให้โจทก์เสียหายซึ่งจำเลยที่ ๑ จะต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายของโจทก์ดังกล่าวข้างต้นอันเกิดแต่ยานพาหนะนั้นแล้ว จำเลยที่ ๑ ก็เพิกเฉยไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์แต่อย่างใดๆตลอดมาจนบัดนี้ โจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายของโจทก์เรื่องมา จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์ที่เฉี่ยวชนโจทก์ดังกล่าวข้างต้นอันเป็นการละเมิดโจทก์หลายครั้งหลายหน จำเลยทั้งสองก็เพิกเฉยตลอดมา
โจทก์ไม่มีทางใดที่จะบังคับจำเลยทั้งสองให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ได้ โจทก์จึงต้องอาศัยบารมีศาลเป็นที่พึ่ง
คดีนี้เหตุเกิดที่ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขาบางบอน ถนนกาญจนาภิเษก แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของศาลนี้
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
คำขอท้ายฟ้อง
(๑) ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์จำนวน ๙๒๐,๐๐๐ บาท (เก้าแสนสองหมื่นบาทถ้วน) พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
(๒) ให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแทนโจทก์ด้วย