ReadyPlanet.com
dot dot
dot
บริการของเรา
dot
bulletจัดเตรียมคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก
bulletจัดเตรียมคำให้การสู้คดี
bulletจัดเตรียมคำฟ้องคดี
bulletเรียกคืนเงินค่าเปลี่ยนสัญญาจะซื้อจะขายคอนโด
bulletสู้คดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletสู้คดีสัญญาสินเชื่อเงินผ่อนสินค้า อีซี่บาย (เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซส)
bulletสู้คดีสัญญาสินเชื่อเงินสดอีซี่บาย (เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซส)
bulletสู้คดีกู้เงินสินเชื่อธนาคารประชาชน (ธนาคารออมสิน)
bulletสู้คดีคอร์ทส์ เม็กก้าสโตร์ ภูเก็ต (รีโซลูชั่น เวย์)
bulletสู้คดีเซทเทเลม
bulletสู้คดีแคปปิตอล โอเค
dot
ตัวอย่างผลงานของเรา
dot
bulletตัวอย่างชนะคดีเช่าซื้อรถยนต์
bulletตัวอย่างชนะคดีผู้บริโภคกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletเรื่องจริง บริษัทประกันชีวิตยอมจ่ายหนึ่งล้าน
bulletตัวอย่างชนะคดีผู้บริโภคสัญญาสินเชื่อเงินสดอีซี่บาย
bulletตัวอย่างชนะคดีผู้บริโภคสินเชื่อธนาคารออมสิน
bulletตัวอย่างชนะคดีผู้บริโภค (เช่าซื้อรถยนต์)
bulletตัวอย่างชนะคดี พ.ร.บ.จราจร (เมาแล้วขับ)
bulletตัวอย่างชนะคดี พ.ร.บ.ศุลกากร
bulletตัวอย่างชนะคดีชั้นศาลอุทธรณ์
bulletคำสั่งศาลตั้งผู้จัดการมรดก (ดำเนินคดีด้วยตนเอง)
bulletตัวอย่างฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ยอมชดใช้ค่าเสียหาย)
dot
ตัวอย่างเอกสารทางกฎหมายฟรี
dot
bulletตัวอย่างจดหมายทวงหนี้ที่ไม่เป็นความจริง
bulletตัวอย่างคำฟ้อง
bulletตัวอย่างคำให้การจำเลย
bulletตัวอย่างคำร้องต่างๆ
bulletตัวอย่างเอกสารที่สำคัญอย่างอื่นๆ
bulletตัวอย่างอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษา
dot
บทความทางกฎหมายอื่นๆ
dot
bulletสู้คดีที่ถูกบริษัทซื้อหนี้มาฟ้องทุกชนิด
bulletคำฟ้องสั่งสอนทนายความ (เรื่องจริง)
bulletทนายความออนไลน์
bulletทนายความกับการตลาดแบบตรง
bulletอาชีพทนายความ
bulletทนายความ:อำนาจหน้าที่และสิทธิในประมวลกฎหมาย
bulletทนายความ:อำนาจหน้าที่และสิทธิในพระราชบัญญัติอื่นๆ
bulletผู้ใหญ่บ้าน
bulletคดีซื้อขายที่เป็นคดีผู้บริโภค
dot
เพื่อนบ้านของเรา
dot
bulletสารบัญเว็บไทย
dot
Newsletter

dot


สำนักงานอัยการสูงสุด
กรมบังคับคดี
@sukadee.com


ตัวอย่างคำฟ้องพนักงานสอบสวนกระทำละเมิด

ข้อหาหรือฐานความผิด  ละเมิด เรียกค่าสินไหมทดแทน
จำนวนทุนทรัพย์  ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท
            ข้อ ๑. โจทก์เป็นบุคคลสัญชาติไทย ปรากฏตามภาพถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของโจทก์ เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๑ และ ๒ มีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๓๐ ซึ่งการจับคุมขังตัวโจทก์อันกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพดังกล่าวจะกระทำไม่ได้ ทั้งมาตรา ๓๒ นั้น การจับและคุมขังบุคคลใดจะกระทำมิได้เว้นแต่มีคำสั่งหรือหมายของศาล หรือมีเหตุจำเป็นอย่างอื่นให้จับได้โดยไม่มีหมายตามที่กฎหมายบัญญัติ และโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูยนี้รับรองไว้ สามารถยกบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้เพื่อใช้สิทธิทางศาลได้ตามมาตรา ๒๘
            จำเลยที่ ๑ เป็นข้าราชการตำรวจ สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ (สบ.๓) สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี มีอำนาจหน้าที่ในการสอบสวนคดีอาญา เพื่อทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆ อันเกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๖), (๑๑), (๑๖) และหน้าที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยจรรยาบรรณพนักงานสอบสวน พ.ศ.๒๕๔๔ ที่ได้ประกาศเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๔ ข้อ ๓(๑) ซึ่งกำหนดให้พนักงานสอบสวนต้องเคารพในสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญโดยจำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๒
            จำเลยที่ ๒ เป็นส่วนราชการมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติพ.ศ.๒๕๔๗ มีอำนาจหน้าที่ดูแลควบคุมและกำกับการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นหัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบการปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเป็นผู้แทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจำเลยที่ ๒ เป็นนายจ้างของจำเลยที่ ๑
            ข้อ ๒. เมื่อวันที่ .... กรกฎาคม ๒๕๔๖ เวลากลางคืนหลังเที่ยง ถึงวันที่ ..... กรกฎาคม ๒๕๔๖ เวลากลางคืนก่อนเที่ยงต่อเนื่องกัน จำเลยที่ ๑ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนเวร ณ สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำละเมิดต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายกล่าวคือ จำเลยที่ ๑ ได้รับมอบการควบคุมตัวโจทก์จากการจับกุมที่มิชอบด้วยกฎหมายของ พ.ต.ท. บ. กับพวกรวม ๕ คน โดยกล่าวหาว่าโจทก์กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.๒๕๓๐ และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ เพราะว่าการจับกุมโจทก์นั้นเกิดขึ้นภายหลังจากที่ พ.ต.ท. บ. กับพวกรวม ๕ คน กำลังตรวจค้นบริษัท ม. จำกัด อยู่ตามหมายค้นของศาลอาญาและโจทก์ซึ่งเดินทางไปถึงบริษัท ม. จำกัด อันเป็นสถานที่ซึ่งกำลังถูกตรวจค้นในเวลาภายหลังการเริ่มการตรวจค้นแล้วและโจทก์ได้ถูกจับกุมเนื่องเพราะสาเหตุเพียงอย่างเดียวคือเป็นผู้มีชื่อในใบอนุญาตประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายซึ่งเทปหรือวัสดุโทรทัศน์เท่านั้น รายละเอียดปรากฎตาม สำเนาภาพถ่ายหมายค้นของศาลอาญาเลขที่ ..../....., ใบอนุญาตประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายเทปหรือวัสดุโทรทัศน์ เลขที่ ....../...... และสำเนาภาพถ่ายการตรวจยึด/จับกุม ฉบับลงวันที่ .... กรกฎาคม ๒๕๔๖ เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๓, ๔ และ ๕ ตามลำดับ การจับกุมโจทก์ ของ พ.ต.ท. บ. กับพวกรวม ๕ คน จึงเป็นการจับกุมที่มิชอบด้วยกฎหมาย เพราะเป็นการจับกุมโจทก์โดยไม่คำสั่งหรือหมายของศาล อีกทั้งโจทก์ไม่ได้กระทำผิดซึงหน้าหรือมีเหตุจำเป็นอย่างอื่นให้จับโจทก์ได้โดยไม่มีหมายตามที่กฎหมายบัญญัติ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิโจทก์อันเป็นการฝ่าฝืนต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๔๐ มาตรา ๓๒
            ต่อมาตามวันและเวลาเกิดเหตุ เมื่อจำเลยที่ ๑ ในฐานะพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้รับมอบการควบคุมตัวโจทก์จากการจับกุมที่มิชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว และรับแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมทั้งได้รับหลักฐานต่างๆ จาก พ.ต.ท. บ. กับพวกรวม ๕ คน ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๓, ๔ และ ๕ เช่นนั้นแล้วจำเลยที่ ๑ ได้ทำการสอบสวนโจทก์และได้รับมอบพยานหลักฐานจากโจทก์ที่แสดงว่าโจทก์ไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่ได้เป็นกรรมการบริษัท ม. จำกัด ในขณะเกิดเหตุที่ถูกกล่าวหาตามข้อกล่าวหาข้างต้น แต่มีบุคคลอื่นเป็นกรรมการ คือหนังสือรับรองของบริษัท ม. จำกัด ฉบับลงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๔๖ รายละเอียดปรากฎตามสำเนาภาพถ่ายหนังสือรับรองดังกล่าว เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๖ อีกทั้งโจทก์ให้การปฎิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาและได้ลาออกจากกรรมการบริษัท ม. จำกัด นานหลายเดือนแล้ว รายละเอียดปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายบันทึกคำให้การผู้ต้องหาราย นาย ป. ฉบับลงวันที่ .... กรกฎาคม ๒๕๔๖ เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๗ ประกอบกับสิทธิของโจทก์ที่ได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๔๐ มาตรา๓๙ ซึ่งบัญญัติว่าในคดีอาญาต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหา (คือโจทก์) ไม่มีความผิดและจำเลยที่ ๑ ย่อมรู้และเข้าใจอย่างชัดแจ้งแล้วว่าโจทก์ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าวอีกทั้งไม่มีเหตุอันจะควบคุมตัวโจทก์ไว้ได้ต่อไปตามกฎหมายแต่อย่างใดๆ ถึงแม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๓๖ จะบัญญัติให้พนักงานสอบสวนจับและควบคุมผู้ต้องหาหรือบุคคลใดซึ่งในระหว่างสอบสวนปรากฎว่าเป็นผู้กระทำผิดได้ก็ตาม แต่บทกฎหมายดังกล่าวไม่อาจบังคับใช้ได้อีกต่อไป เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๓๒ แต่จำเลยที่ ๑ ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนมาเป็นระยะเวลายาวนานจนกระทั่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษต้องทราบและเข้าใจถึงสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของบุคคลตามรัฐธรรมนูญอย่างดีและทราบเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้ว ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ คือจำเลยที่ ๑ ได้ควบคุมตัวโจทก์ไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งนี้ เพราะเป็นการควบคุมตัวโจทก์ไว้โดยไม่มีคำสั่งหรือหมายของศาล อีกทั้งโจทก์มิได้กระทำผิดซึ่งหน้าหรือมีเหตุจำเป็นอย่างอื่นให้ควบคุมตัวโจทก์ ไว้ได้โดยไม่มีหมายตามที่กฎหมายบัญญัติ และโดยที่โจทก์ไม่ได้กระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใดๆ อีกทั้งเมื่อโจทก์ถูกจับกุมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายจากการจับกุมของ พ.ต.ท. บ. กับพวกรวม ๕ คน ดังกล่าว ข้างต้นแล้ว จำเลยที่ ๑ ในฐานะพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ ยิ่งไม่มีอำนาจที่จะควบคุมตัวโจทก์ไว้ต่อเนื่องจากการจับกุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นด้วย ซึ่งทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเพราะการควบคุมตัวโจทก์ของจำเลยที่ ๑ เป็นการกระทำให้โจทก์ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ขาดความน่าเชื่อถือในหน้าที่การงาน ซึ่งต่อมาจำเลยที่ ๑ ได้มอบหมายการควบคุมตัวโจทก์ให้แก่สิบเวรสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี รายละเอียดปรากฎตามสำเนาภาพถ่ายรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี ข้อ .... ลงวันที่ .... กรกฎาคม ๒๕๔๖, สำเนาภาพถ่ายบันทึกการแจ้งสิทธิของผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหารายนาย ป., สำเนาภาพถ่ายบันทึกการควบคุมผู้ต้องหา, สำเนาภาพถ่ายคำร้องขอประกันตัว, สำเนาภาพถ่ายบันทึกเสนอสัญญาประกัน และสำเนาภาพถ่ายหนังสือกองบังคับการตำรวนท่องเที่ยว เรื่องรายงานผลตามหมายค้นเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๘ - ๑๓ ตามลำดับ
            การที่จำเลยที่ ๑ การควบคุมตัวโจทก์โดยไม่มีอำนาจนั้น เรื่องนี้จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๒ ได้ทราบและเข้าใจอย่างชัดเจนแล้วว่า จำเลยที่ / ในฐานะพนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจควบคุมผู้ต้องหาหรือบุคคลใดซึ่งระหว่างการสอบสวนปรากฏว่าเป็นผู้กระทำผิดนั้นโดยไม่มีหมายตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๓๒ เพราะว่าจำเลยที่ ๒ ได้เคยมีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ตช๐๐๐๔.๖/๔๙๒๑ ลงวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๔๕ ถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ขอหารือในประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการตาม มาตรา ๑๓๖ แห่งประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญาและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตอบข้อหารือนี้แล้วว่า “ ประเด็นที่สี่ กรณีตามมาตรา ๑๓๖ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เห็นว่า กรณีที่พนักงานสอบสวนจะจับและควบคุมหรือจัดการให้จับหรือควบคุมผู้ต้องหาหรือบุคคลใดซึ่งระหว่างการสอบสวนปรากฎว่าเป็นผู้กระทำความผิดนั้น ไม่ถือเป็นเหตุจำเป็นอย่างอื่นตามที่มีกฎหมายบัญญัติให้เจ้าพนักงานมีอำนาจจับได้โดยไม่มีหมายตามมาตรา ๒๓๗ วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักไทย โดยเจ้าพนักงานจะต้องขอหมายจับจากศาลเสียก่อน” รายละเอียดปรากฎตาม สำเนาภาพถ่ายบันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๑๑) เรื่องเสร็จที่ ๔๕๒/๒๕๔๖ เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๑๔
            ข้อ ๓. ต่อมาเมื่อวันที่ .... พฤษภาคม ๒๕๔๗ หัวหน้าพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ๓ สำนักงานอัยการสูงสุด มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องโจทก์ในเรื่องที่ถูกกล่าวหาข้างต้น รายละเอียดปรากฎตามสำเนาภาพถ่ายหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ อส(สฝศท๓)......../....... เรื่องแจ้งคำสั่งไม่ฟ้อง และสำเนาภาพถ่ายหนังสือสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ที่ ตช๐๐๑๑(บก.๕)๐๔/...... ฉบับลงวันที่ ..... พฤษภาคม ๒๕๔๗ เรื่องแจ้งผลคดี เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๑๕ และ ๑๖ ตามลำดับ
การที่จำเลยที่ ๑ ควบคุมตัวโจทก์ไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวในฟ้องข้อ.๒ นั้น ทำให้โจทก์เสื่อมเสียเสรีภาพในร่างกาย เสื่อมเสียชื่อเสียง และขาดความน่าเชื่อถือในตำแหน่งหน้าที่การงานในฐานะข้าราชการ ต้องรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงต่อผู้บังคับบัญชา รายละเอียดปรากฎตามสำเนาภาพถ่าย หนังสือสถานีตำรวนนครบาลลุมพินี ที่ ตช ๐๐๑๑(บก.๕)๐๔/...... ฉบับลงวันที่ .... กรกฎาคม ๒๕๔๖ เรื่องการแจ้งต้องหาคดีอาญาและบันทึกข้อความสำนักงาน ที่ (กท.)๐๐๐๕/..... ฉบับลงวันที่ .... สิงหาคม ๒๕๔๖ เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๑๗ และ ๑๘ ตามลำดับ ทำให้ประวัติการรับราชการของโจทก์ต้องมัวหมอง โจทก์เสียหายคิดเป็นค่าสินไหมทดแทนจากการที่โจทก์เสื่อเสียเสรีภาพในร่างกายเป็นเงิน ๙๐๐,๐๐๐ บาท และค่าสินไหมทดแทนจากการเสื่อมเสียชื่อเสียงและขาดความน่าเชื่อถือในตำแหน่งหน้าที่การงานของโจทก์ในฐานะข้าราชการทำให้ประวัติการรับราชการต้องมัวหมองเป็นเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นค่าสินไหมทดแทนทั้งสิ้น ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านสองแสนบาทถ้วน)
            จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ ดังนั้น จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นนายจ้างต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ / ในผลแห่งละเมิดที่ จำเลยที่ ๑ ได้กระทำไปในทางการจ้างนั้น คือการปฎิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนซึ่งจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำละเมิดต่อโจทก์โดยผิดกฎหมายทำให้โจทก์เสียหายดังกล่าวข้างต้น
            โจทก์ไม่มีทางอื่นใดที่จะบังคับให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ได้ จึงมาฟ้องเป็นคดีนี้

                                                              ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

คำขอท้ายคำฟ้องแพ่ง
           เพราะฉะนั้นขอศาลออกหมายเรียกตัวจำเลยมาพิจารณาพิพากษาและบังคับจำเลยตามคำขอต่อไปนี้
                 ๑.ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชดใช้เงินจำนวน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อ
ปีของต้นเงินจำนวน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องคดีนี้จนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์
                 ๒.ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าฤชาธรรมเนียม และค่าทนายความแทนโจทก์ด้วย

ข้าพเจ้าได้ยื่นสำเนคำฟ้องโดยข้อความถูกต้องเป็นอย่างเดียวกันมาด้วย สอง ฉบับ และรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบด้วย
  ................................................................โจทก์

หมายเหตุ  ปัจจุบันต้องฟ้องจำเลยที่ ๒ เป็นจำเลยเท่านั้น เพราะเป็นหน่วยงานของรัฐโดยตรง ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๕
              ความจริงโจทก์ทราบเรื่องนี้ดี แต่โจทก์ประสงค์จะฟ้องเพื่อสั่งสอนและทำให้จำเลยที่ ๑ เกิดความยุ่งยาก และต้องไปให้ถ้อยคำต่อพนักงานอัยการเพื่อให้ถ้อยคำประกอบการให้การต่อสู้คดี




คำฟ้อง

ตัวอย่างคำฟ้องของพนักงานอัยการ พ.ร.บ.ศุลกากร article
ตัวอย่างคำฟ้องของพนักงานอัยการ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ article
ตัวอย่างคำฟ้องของพนักงานอัยการ พ.ร.บ.การพนัน (เจ้ามือรับกินรับใช้)
ตัวอย่างคำฟ้องของพนักงานอัยการ พ.ร.บ.การพนัน (คนเดินโพย)
ตัวอย่างคำฟ้องเจ้าพนักงานตำรวจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ article
ตัวอย่างคำฟ้องคดีละเมิดสิทธิผู้บริโภค (ผิดสัญญาซื้อทัวร์) article
ตัวอย่างคำฟ้องคดีละเมิดสิทธิผู้บริโภค (ผิดสัญญาจะซื้อจะขายอาคารชุด)
ตัวอย่างคำฟ้องคดีผู้บริโภค (สินเชื่อเงินสดอีซี่บาย)
ตัวอย่างคำฟ้องของพนักงานอัยการ พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ
ตัวอย่างคำฟ้องคดีชนแล้วหนี
ตัวอย่างคำฟ้องคดีพรากผู้เยาว์
ตัวอย่างคำฟ้องคดีละเมิดสิทธิผู้บริโภค (ฟ้องแพทย์ , สถานพยาบาล)
ตัวอย่างคำฟ้องคดีร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนหรือรับของโจร
ตัวอย่างคำฟ้องคดีใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ
ตัวอย่างคำฟ้องคดีที่บกพร่องโดยเมื่อยื่นคำฟ้องคดีแล้วแพ้คดีทันที
ตัวอย่างคำฟ้องร่วมกันออกเงินกู้เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
ตัวอย่างคำฟ้องคดีผู้บริโภค (บัตรเครดิตเคทีซี)
ตัวอย่างคำฟ้องคดีผู้บริโภค ผิดสัญญาบัตรเครดิต , ผิดสัญญาสินเชื่อ(สปีดี้แคช)
ตัวอย่างคำฟ้องกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตัวอย่างคำฟ้องทำไม้หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆแก่หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ร่วมกันเกินยี่สิบท่อน
ตัวอย่างคำฟ้องคดีผู้บริโภคเรื่องบัตรเครดิตกรุงไทย (KTC) แพ้คดี
ตัวอย่างคำฟ้องเรื่องเพิกถอนการให้เพราะเหตุเนรคุณ
ตัวอย่างคำฟ้องแพ่งเรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย (รถชน)
ตัวอย่างคำฟ้องคดีผู้บริโภคเช่าซื้อรถยนต์เงินติดล้อ
ตัวอย่างคำฟ้องคดีผิดสัญญาสินเชื่อหมุนเวียน (กู้ยืมเงินบัตรยูเม๊ะพลัส)
ตัวอย่างคำฟ้องขอเพิกถอนนิติกรรม
ตัวอย่างคำฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ ( ร่วมกันละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าด้วยการทำซ้ำ ดัดแปลงซึ่งงานวรรณกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต)
ตัวอย่างคำฟ้องคดีผู้บริโภค “สินเชื่อเงินสด ควิกแคช”
ตัวอย่างคำฟ้องที่เอสเอ็มอีฟ้องคดีผู้บริโภคได้เอง



สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๖๖

สู้คดีดอทคอมทนายความ
ที่อยู่ :  เลขที่ 14 ซอยพึ่งมี 38 ถ. สุขุมวิท 93 แขวง : บางจาก เขต :  พระโขนง
จังหวัด กรุงเทพมหานคร      รหัสไปรษณีย์ :10260
อีเมล ทนายความ : sepher@hotmail.co.th

Line ID: @sukadee.com
 

Free PageRank Checker