 (180 x 125).jpg) |
ฐานความผิด ลักทรัพย์ในเคหสถาน , เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น , ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ
ข้อ ๑. จำเลยได้กระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ
๑.๑ เมื่อระหว่างวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลากลางวัน ถึงวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลากลางวัน วันใดไม่ปรากฏชัด เวลากลางวัน จำเลยได้เข้าไปภายในบ้านพักเลขที่.... หมู่ที่.... ตำบลศรีณรงค์ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ อันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของนาง ค. ผู้เสียหายโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุอันสมควร แล้วจำเลยได้บังอาจลักทรัพย์เอาและเอาไปเสียซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตรถอนเงินสด) อันเป็นเอกสารที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาชุมพลบุรี ออกให้แก่ผู้เสียหาย ขณะอยู่ในความครอบครองของผู้เสียหาย จำนวน ๑ ใบ ราคา ๑๕๐ บาท ซึ่งเก็บรักษาทรัพย์ไว้ในเคหสถานดังกล่าวไปโดยทุจริต และในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย , ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ชุมพลบุรี, ผู้อื่นหรือประชาชน อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
เหตุเกิดที่ตำบลศรีณรงค์ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
๑.๒ เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลากลางวัน ภายหลังจากจำเลยได้กระทำความผิดดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑.๑ แล้ว จำเลยได้บังอาจมีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตรถอนเงินสด) ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ชุมพลบุรี ออกให้แก่นาง ค. ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการเบิกถอนเงินสด อันเป็นทรัพย์ และเอกสารของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ชุมพลบุรี ที่จำเลยลักและเอาไปเสียซึ่งเอกสารดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑.๑ เพื่อนำออกใช้โดยมิชอบ แล้วจำเลยได้ได้บังอาจใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวโดยมิชอบ และบังอาจลักทรัพย์เอาเงินของผู้เสียหายจากบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ชุมพลบุรี บัญชีเลขที่ xxx-x-xxxxx-x ของผู้เสียหาย โดยการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวถอนเงินสดผ่านเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ (เครื่อง A.T.M) ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ชุมพลบุรี จำนวน ๓,๐๐๐ บาท ไปโดยทุจริต และในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาชุมพลบุรี ผู้อื่นหรือประชาชน
๑.๓ เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลากลางวัน ภายหลังจากจำเลยได้กระทำความผิดดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑.๑ แล้ว จำเลยได้บังอาจมีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตรถอนเงินสด) ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ชุมพลบุรี ออกให้แก่นาง ค. ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการเบิกถอนเงินสด อันเป็นทรัพย์ และเอกสารของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ชุมพลบุรี ที่จำเลยลักเอาไปเสียซึ่งเอกสารดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑.๑ เพื่อนำออกใช้โดยมิชอบ แล้วจำเลยได้บังอาจใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวโดยมิชอบ และบังอาจลักทรัพย์เอาเงินของผู้เสียหายจากบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ชุมพลบุรี บัญชีเลขที่ xxx-x-xxxxx-x ของผู้เสียหาย โดยการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวถอนเงินผ่านเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ (เครื่องA.T.M) ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ชุมพลบุรี จำนวน ๔,๐๐๐ บาท ไปโดยทุจริต และในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ชุมพลบุรี ผู้อื่นหรือประชาชน
๑.๔ เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลากลางวัน ภายหลังจากจำเลยได้กระทำความผิดดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑.๑ แล้ว จำเลยได้บังอาจมีบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตรถอนเงินสด) ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาชุมพลบุรี ออกให้แก่นาง ค. ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการเบิกถอนเงินสด อันเป็นทรัพย์ และเอกสารของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาชุมพลบุรี ที่จำเลยลักเอาไปเสียซึ่งเอกสารดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑.๑ เพื่อนำออกใช้โดยมิชอบ แล้วจำเลยได้ได้บังอาจใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวโดยมิชอบ และบังอาจลักทรัพย์เอาเงินของผู้เสียหายจากบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาชุมพลบุรี บัญชีเลขที่ xxx-x-xxxxx-x ของผู้เสียหาย โดยการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวถอนเงินสดผ่านเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติ (เครื่อง A.T.M) ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ชุมพลบุรี จำนวน ๓,๑๐๐ บาทไปโดยทุจริต และในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ชุมพลบุรี ผู้อื่นหรือประชาชน
เหตุตามฟ้องข้อ ๑.๑ , ๑.๒ , ๑.๓ และ ๑.๔ เกิดที่ตำบลชุมพลบุรี อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์
ข้อ ๒. ต่อมาวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้นำส่งพนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนแล้ว
ชันสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ
ระหว่างสอบสวนจำเลยถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันถูกจับตลอดมา ขณะนี้ต้องขังอยู่ตามหมายขังของศาลนี้ ตามคำร้องขอฝากขังในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ฝ..../๒๕๕๒ ขอศาลได้เบิกตัวจำเลยมาพิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
อนึ่ง หากจำเลยขอประกันตัวขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล
คำขอท้ายฟ้องอาญา
การที่จำเลยได้กระทำตามข้อความที่กล่าวมาในคำฟ้องนั้น ข้าพเจ้าถือว่าเป็นความผิดต่อกฎหมายและบทมาตรดังนี้ คือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑, ๑๘๘, ๓๓๔, ๓๓๕, ๒๖๙/๕, ๒๖๙/๖, ๒๖๙/๗ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๕๒๖ มาตรา ๔ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ.๒๕๔๗ มาตรา ๕
ขอศาลได้พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และขอศาลได้สั่ง ให้จำเลยคืนเงินจำนวน ๑๐,๑๐๐ บาท และคืนให้หรือใช้ราคาบัตรอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน ๑๕๐ บาท รวมเงิน และราคาทรัพย์ทั้งสิ้นจำนวน ๑๐,๒๕๐ บาท แก่ผู้เสียหาย
ข้าพเจ้าได้ยื่นสำเนาคำฟ้อง โดยข้อความถูกต้องเป็นอย่างเดียวกันมาด้วย หนึ่ง ฉบับ และรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว
โจทก์
คำฟ้องฉบับนี้ข้าพเจ้า พนักงานอัยการเป็นผู้เรียง
คำฟ้องฉบับนี้ข้าพเจ้า ตำแหน่ง เป็นผู้เขียน หรือพิมพ์