คดีผู้บริโภคมีหลายประเภท เช่น ซื้อขาย เช่าทรัพย์ เช่าซื้อ จ้างทำของ รับขน สินเชื่อบุคคล กู้ยืม ค้ำประกัน บัตรเครดิต รวมทั้งบริการท่องเที่ยวด้วย หากท่านเป็นผู้บริโภคและถูกละเมิดสิทธิ ท่านสามารถนำตัวอย่างคำฟ้องนี้ไปปรับใช้กับข้อเท็จจริงในคดีของท่านได้ การฟ้องคดีผู้บริโภค ใช้แบบพิมพ์ของศาล คือ แบบพิมพ์คำฟ้องผู้บริโภค (แบบ ผบ.๑) ตัวอย่างคำฟ้องนี้เป็นเรื่องการผิดสัญญาซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบิน โดยคำฟ้องมีเนื้อความดังนี้
เรื่อง ร่วมกันประกอบธุรกิจ ผิดสัญญา ละเมิดสิทธิผู้บริโภคและเรียกเงินคืน
จำนวนทุนทรัพย์ ๓๖๙,๒๐๐ บาท.....สตางค์
ข้อ ๑. โจทก์เป็นลูกค้าซึ่งเป็นผู้ซื้อและเป็นผู้ได้รับบริการ โดยได้รับการเสนอหรือการชักชวนจากจำเลยทั้งสองผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวเพื่อให้ซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยโจทก์เป็นผู้ซื้อและผู้ชำระค่าบริการเป็นเงินให้แก่จำเลยทั้งสอง โจทก์จึงเป็นผู้บริโภคตามกฎหมาย
จำเลยที่ ๑ เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยใช้ชื่อว่า บริษัท.....จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจหลายประเภท เช่น ประกอบกิจการโรงแรม ภัตตาคาร บาร์ ไนต์คลับ ประกอบกิจการขนส่งสินค้าและคนโดยสาร ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ประกอบกิจการนำเที่ยว รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการนำเที่ยวทุกชนิด ฯลฯ ปรากฏตามสำเนาหนังสือรับรองจดทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๑
จำเลยที่ ๒ ในฐานะเป็นกรรมการบริษัทฯ จำเลยที่ ๑ มีอำนาจลงลายมือชื่อผูกพันบริษัทฯ จำเลยที่ ๑ และในฐานะส่วนตัวได้ร่วมกันประกอบธุรกิจกับจำเลยที่ ๑ จำเลยทั้งสองจึงเป็นผู้ประกอบธุรกิจตามกฎหมาย
ข้อ ๒. เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๒ จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยว ขายตั๋วโดยสารเครื่องบิน ธุรกิจที่เที่ยวกับการนำเที่ยว โดยจำเลยทั้งสองได้โฆษณาด้วยเอกสารสิ่งพิมพ์ ลงโฆษณาในวารสารการท่องเที่ยวฉบับต่างๆ และโฆษณาในอินเทอร์เน็ต ด้วยข้อความว่า ....ทราเวล เอเยนซี่ เที่ยวอย่างประทับใจ เรียกใช้.....ทราเวล และข้อความอื่นๆที่มีความมุ่งหมายโฆษณาอวดอ้างบริการนำเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้องของจำเลยที่ ๑ ปรากฏรายละเอียดตามสำเนาเอกสารการโฆษณา เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๒ ทั้งจำเลยที่ ๒ ได้พูดจูงใจให้โจทก์ในฐานะผู้บริโภคซื้อบริการจากจำเลยที่ ๑ และให้โจทก์มอบเงินให้จำเลยที่ ๒ เป็นค่าบริการ โดยการโฆษณาดังกล่าว ทำให้โจทก์หลงเชื่อจ่ายเงินซื้อบริการนำเที่ยวกับจำเลยทั้งสอง โดยจำเลยที่ ๒ กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯจำเลยที่ ๑ และในฐานะส่วนตัวได้รับเงินจำนวน ๓๖๙,๒๐๐ บาท เป็นค่าซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบิน สายการบินไทยจากกรุงเทพมหานคร ไปเมืองอินชอน ยองจองโด ประเทศเกาหลีใต้ ไป-กลับ จำนวน ๑๒ ที่นั่ง ชั้นธุรกิจ ๕ ที่นั่งชั้นประหยัด ๗ ที่นั่งกำหนดเดินทางวันที่๑๒ เมษายน ๒๕๕๒ จำเลยทั้งสองได้รับเงินจากโจทก์ไปแล้วปรากฏตามสำเนาใบเสร็จรับเงินของบริษัทฯจำเลยที่ ๑ ซึ่งลงชื่อโดยจำเลยที่ ๒ เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๓ แต่จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันเอาเงินดังกล่าวเป็นของตน ไม่ชำระค่าตั๋วโดยสารให้แก่การบินไทย เมื่อถึงวันที่กำหนดการเดินทางดังกล่าว โจทก์กับพวกไม่สามารถเดินทางไปยังประเทศเกาหลีใต้ได้ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการผิดสัญญาและละเมิดสิทธิของโจทก์ในฐานะผู้บริโภค ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์ได้ทวงถามให้จำเลยทั้งสองชำระค่าเสียหายแก่โจทก์หลายครั้ง จำเลยทั้งสองเพิกเฉย ต่อมาโจทก์จึงได้มีหนังสือแจ้งบอกเลิกสัญญาให้จำเลยทั้งสองคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ จำเลยทั้งสองได้รับหนังสือทวงถามของโจทก์แล้วปรากฏตามสำเนาหนังสือทวงถามของโจทก์และสำเนาใบตอบรับทางไปรษณีย์ เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๔ และ ๕ ตามลำดับแต่จำเลยทั้งสองเพิกเฉยเรื่อยมา การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการผิดสัญญาและเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ในฐานะผู้บริโภค จำเลยทั้งสองจึงต้องร่วมกันคืนเงินค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินจำนวน ๓๖๙,๒๐๐ บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๒ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โจทก์ไม่มีทางใดที่จะบังคับให้จำเลยทั้งสองคืนเงินให้แก่โจทก์ได้จึงต้องฟ้องเป็นคดีนี้ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๒ มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลนี้ และมูลคดีเกิดที่สำนักงานของจำเลยที่ ๑ ซึ่งอยู่ในเขตศาลนี้
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
คำขอท้ายฟ้องคดีผู้บริโภค ขอศาลโปรดออกหมายเรียกจำเลยมาพิจารณาพิพากษาและบังคับจำเลยตามคำขอต่อไปนี้
๑. ให้จำเลยทั้งสองจึงต้องร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินจำนวน ๓๖๙,๒๐๐ บาทคืนแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๒ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จสิ้นแก่โจทก์
๒.ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ด้วย
๓. ให้จำเลยกระทำหรืองดเว้นการกระทำ -
๔.ให้จำเลยส่งมอบสิ่งของ -
๕.อื่นๆ –
ข้าพเจ้าได้ยื่นมาพร้อมสำเนาโดยข้อความถูกต้องเป็นอย่างเดียวกันมาด้วย สาม ฉบับและรอฟังคำสั่งอยู่ หากไมรอถือว่าทราบแล้ว
ลงชื่อ.....โจทก์
ข้าพเจ้า..... เจ้าพนักงานคดี/ผู้บันทึก
ข้าพเจ้า..... ผู้เรียง/พิมพ์