 (180 x 125).jpg) |
|
|
|
|
ฐานความผิด ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด หรือเพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร
ข้อ ๑. เมื่อระหว่างวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๓ เวลากลางคืนหลังเที่ยงถึงวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๓ เวลากลาวัน วันเวลาใดไมปรากฏชัด จำเลยนี้กับพวกอีกคนหนึ่งที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันเข้าไปในบริเวณบ้านพักอันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของนาง ก. ผู้เสียหายโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วบังอาจลักเอาปั๊มชักน้ำ จำนวน ๑ ตัวราคา ๔,๐๐๐ บาทของนาบง ก.ผู้เสียหายที่เก็บรักษาไว้ในเคหสถานดังกล่าวไปโดยทุจริตโดยใช้รถจักรยานยนต์จำนวน ๑ คัน เป็นยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด หรือเพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการับกุม
เหตุเกิดที่ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
ข้อ ๒. ต่อมาในวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๑ เวลากลาวันภายหลังเกิดเหตุ เจ้าพนักงานทำการตรวจยึดปั๊มชักน้ำ จำนวน ๑ ตัว ของนาง ก. ผู้เสียหานในสภาพแยกเป็นชิ้นส่วนประกอบด้วยตัวปั๊มซักน้ำ หัวปั๊มชักน้ำ ชุดข้อเหวี่ยง ๑ ชุด ที่ถูกคนร้ายลักไปดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑. ขณะอยู่ในความครอบครองของจำเลยจึงบันทึกไว้เป็นหลักฐานและปล่อยตัวจำเลยไปและนำมาเป็นของกลาในคดีนี้ ต่อมาวันที่ ๑๔ กรกาคม ๒๕๕๓ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้นำส่งพนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนแล้ว ทั้งนี้โดยตามวัน เวลาและสถานที่เกิดเหตุดังกล่าวในฟ้อง ข้อ ๑. จำเลยกับพวกได้บังอาจเป็นคนร้ายร่วมกันลักเอาปั๊มชักน้ำจำนวน ๑ ตัวของผู้เสียหายดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑ ไปโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นเมื่อระหว่างวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๓ เวลากลางคืนหลังเที่ยงถึงวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๓ เวลากลาวัน หลังเกิดเหตุลักทรัพย์แล้ว วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยนี้กับพวกได้บังอาจร่วมกันรับของโจรโดยช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ด้วยประการใดซึ่งปั๊มชักน้ำจำนวน ๑ ตัว ในสภาพแยกเป็นชิ้นส่วนของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักเอาไปดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑.ไว้จากคนร้ายโดยจำเลยกับพวกรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิดลักษณะลักทรัพย์
เหตุรับของโจรเกิดที่ ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างสอบสวนจำเลยถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันถูกจับตลอดมา ขณะนี้ต้องขังอยู่ตามคำร้องขอฝากขังที่ ฝ.๓๑๓/๒๕๕๓ ขอศาลได้เบิกตัวจำเลยมาพิจารณาพิพากษาต่อไป
ก่อนคดีนี้ศาลจังหวัดสิงห์บุรีมีคำพิพากษาถึงที่สุดเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๒ ว่าจำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ให้จำคุก ๖ เดือน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้กำหนด ๒ ปีตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒/๒๕๕๒ ภายในกำหนดเวลาที่ศาลรอการลงโทษไว้ดังกล่าวจำเลยนี้ได้มากระทำผิดในคดีนี้อันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือลหุโทษ
คำขอท้ายฟ้องอาญา
การที่จำเลยได้กระทำตามข้อความที่กล่าวมาในคำฟ้องนั้น ข้าพเจ้าถือว่าเป็นความผิดต่อกฎหมายและบทมาตราดังนี้ คือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๘ , ๓๓๕ (๑) (๗) , ๓๓๖ ทวิ , ๓๕๗ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๒๕ มาตรา ๑๑ , ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๑๓ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๔
ขอศาลได้พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายและขอศาลได้สั่ง. นำโทษของจำเลยที่รอไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒/๒๕๕๓ มาบวกกับโทษของจำเลยในคดีนี้
ข้าพเจ้าได้ยื่นสำเนาคำฟ้อง โดยข้อความถูกต้องเป็นอย่างเดียวกันมาด้วย หนึ่ง ฉบับ และรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว
โจทก์
คำฟ้องฉบับนี้ข้าพเจ้านาย พนักงานอัยการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นผู้เรียง
ผู้เรียง
คำฟ้องฉบับนี้ข้าพเจ้า ตำแหน่ง เป็นผู้เขียน/พิมพ์
ผู้เขียน/พิมพ์