ข้อเท็จจริงในคดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระหนี้เป็นเงินรวมทั้งสิ้นจำนวน ๑๓๐,๓๖๑.๑๙ บาท เราเตรียมเอกสารให้จำเลยเพื่อยื่นคำให้การสู้คดีและจำเลยไปสู้คดีด้วยตนเอง ในที่สุด ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๗,๙๐๐๐ บาท ค่าทนายความ ๓,๐๐๐ บาท รายละเอียดจะนำมาเสนอเพิ่มเพิ่มเติมเมื่อตรวจสอบคำพิพากษาตามหมายเลขคดีแดงอีกครั้ง
ข้อ ๑. โจทก์มีฐานะเป็นนิติบุคคล ประเภทบริษัทมหาชนจำกัด จดทะเบียนถูกต้อง ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยใช้ชื่อว่า “บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) ” โดยมีกรรมการซึ่งมีอำนาจลงลายมือชื่อกระทำการแทนบริษัทโจทก์ คือ นายทาคาฮารุ อุเอมัทซี ประธานกรรมการลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของบริษัท มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ได้ โจทก์มีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการให้กู้ยืมเงินประเภทสินเชื่อเงินสด , สินเชื่อเงินสด/สินเชื่อหมุนเวียน , สินเชื่อเพื่อบริการ , สินเชื่อเงินผ่อน รายละเอียดปรากฏตามสำเนาหนังสือรับรองบริษัทโจทก์ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๑
ในการกระทำใดๆในนามบริษัท ตลอดการฟ้องร้องและดำเนินคดีกับลูกหนี้ของโจทก์ทุกคดีซึ่งรวมทั้งจำเลยในคดีนี้ โจทก์ได้มอบอำนาจให้ นางสาวกฤษนา ซอหะซัน หรือนายปรเมษฐ์ จำปา หรือนายทรงยศ เพลินบุญ หรือนายขจรศักดิ์ เนตรประสาท หรือนางสาวรุ่งรัตน์ อ่วมด้วง หรือนายเฉลิมพล โรจนี หรือนายศักดิ์ศรี ศรีพิทักษ์ หรือว่าที่ ร.ต.ปรัชญา คุ้มทรัพย์ หรือนายวีระชาติ เสประธานนท์ หรือนายบุญจันทร์ ปัญญากุล หรือนายยุทธนา สวัสดี หรือนาย สุธี คชกูล และนายณัฐกร ประเสริฐ คนใดคนหนึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการฟ้องร้องและดำเนินคดีกับลูกหนี้ของโจทก์ได้ทุกคดีรวมทั้งคดีนี้ด้วย รายละเอียดปรากฏตามสำเนาหนังสือมอบอำนาจ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๒
โจทก์ประกอบกิจการในการให้สินเชื่อเงินสด/สินเชื่อหมุนเวียน สินเชื่อเพื่อบริการ สินเชื่อเงินผ่อน และให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทต่างๆ และโจทก์ยังได้ให้บริการรับเป็นสมาชิกโดยออกบัตรสมาชิกเพื่อบริการชนิดใดๆทั้งปวง อีกทั้งโจทก์ได้ประกอบธุรกิจให้บริการบัตรกดเงินสดเพื่อให้บริการทดลองจ่ายเงินชนิดและประเภทใดๆทั้งปวงให้แก่ผู้ถือบัตรดังกล่าว โดยลูกค้าจะต้องเป็นผู้ยื่นใบสมัครสินเชื่อแต่ละประเภทต่อโจทก์ และโจทก์จะเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้องและพิจารณาจากหลักฐานที่ลูกค้ายื่นความจำนงขอกู้ไว้ เมื่อโจทก์ตรวจสอบและพิจารณาความถูกต้องแล้วก่อนจำทำการอนุมัติสัญญาการกู้ยืมเงินดังกล่าว โจทก์จะแจ้งรายละเอียดและเงื่อนไขเกี่ยวกับการกู้ยืมเบื้องต้นให้ลูกค้าทราบ ซึ่งลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดในค่าธรรมเนียมในการกู้ยืมเงินและค่าอากรแสตมป์ในอัตราที่โจทก์กำหนดไว้ในวันทำสัญญา พร้อมกับแจ้งค่างวดผ่อนชำระ อัตราดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงินเบี้ยปรับกรณีชำระหนี้ล่าช้า ค่าติดตามหนี้ด้วย เมื่อลูกค้ายอมรับเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว โจทก์จึงทำการอนุมัติการทำสัญญาดังกล่าวพร้อมกับจำเลยได้รับเงินกู้ตามยอดที่โจทก์ทำการอนุมัติ
ข้อ ๒. เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๒ จำเลยได้มายื่นคำขอสมัครและทำสัญญาสินเชื่อเงินสด/สินเชื่อหมุนเวียน เพื่อกู้ยืมเงินจากโจทก์ และโจทก์ได้ตกลงอนุมัติเป็นวงเงินกู้สินเชื่อแบบหมุนเวียนให้แก่จำเลยในวงเงินกู้จำนวน ๑๓,๖๐๐.๐๐ บาท ซึ่งจำเลยตกลงรับเงินกู้ โดยการถอนเงินโดยใช้บัตรเงินสดและโจทก์ได้ออกบัตรเงินสดพร้อมรหัสประจำบัตรให้แก่จำเลย โดยจำเลยได้รับบัตรเงินสดและรหัสประจำบัตรไปจากโจทก์แล้ว ซึ่งการเบิกถอนเงินกู้ตามสัญญาฉบับนี้ จำเลยสามารถนำบัตรเงินสดทำการเบิกถอนเงินตามสถานที่ที่โจทก์กำหนด โดยใช้บัตรเงินสดประกอบกับรหัสประจำตัวที่ถูกต้องและจำเลยตกลงยินยอมให้ถือว่าการทำรายการเบิกถอนเงินสดดังกล่าวเป็นการทำรายการถอนเงินของจำเลย ซึ่งจำเลยยินยอมรับผิดชอบทุกประการ และให้ถือว่าจำนวนเงินที่จำเลยเบิกถอนผ่านบัตรเงินสดหรือการโอนเงินผ่านธนาคารไปยังบัญชีของจำเลยนั้น เป็นการแสดงว่าจำเลยได้รับเงินกู้ไปจากโจทก์ ครบถ้วนเรียบร้อยแล้วโดยไม่จำต้องมีเอกสารหลักฐานใดๆให้จำเลยต้องลงนามอีก ซึ่งจำเลยตกลงยินยอมให้โจทก์คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕.๐๐ ต่อปี และตกลงให้โจทก์คิดค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินในอัตราร้อยละ ๑๓.๐๐ ต่อปีโดยจำเลยตกลงชำระต้นเงินกู้ พร้อมค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน และดอกเบี้ยทั้งหมดคืนให้แก่โจทก์ในอัตราค่างวดชำระขั้นต่ำไม่เกินร้อยละ ๘ ของเงินต้นคงค้างหรือไม่ต่ำกว่า ๔๐๐ บาท แล้วแต่จำนวนใดที่สูงกว่า กำหนดชำระทุกภายในวันที่ ๒ ของทุกเดือนจนกว่าจำเลยจะชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นแก่โจทก์ หากจำเลยผิดนัดชำระค่างวดงวดหนึ่งงวดใดทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่โจทก์ตามจำนวนเงิน และระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา จำเลยตกลงให้โจทก์มีสิทธิคิด ดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมใดๆ สูงสุดในอัตราร้อยละ ๒๘ ต่อปี และจำเลยตกลงยินยอมให้โจทก์คิดค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามในอัตราเดือนละ ๒๐๐ บาท ทั้งนี้จำเลยตกลงยินยอมให้โจทก์มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้ทั้งหมด พร้อมทั้งดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งหมดตามสัญญานี้ได้โดยพลัน รายละเอียดปรากฏตามสำเนาสัญญาสินเชื่อเงินสด/สินเชื่อหมุนเวียน เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลย ๓
ข้อ ๓. นับแต่จำเลยได้ทำสัญญาสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อกู้ยืมเงินจากโจทก์ และรับบัตรเงินสดพร้อมรหัสประจำบัตรไปจากโจทก์แล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๒ โจทก์ได้ทำการอนุมัติวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนเพิ่มให้แก่จำเลย รวมเป็นเงินสินเชื่อหมุนเวียนจำนวน ๔๗,๖๐๐.๐๐ บาท และเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๓ โจทก์ได้ทำการอนุมัติวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนเพิ่มให้แก่จำเลยอีกครั้งรวมเป็นเงินสินเชื่อหมุนเวียนทั้งสิ้นจำนวน ๗๗,๕๐๐.๐๐ บาท โดยจำเลยได้นำบัตรเงินสดที่โจทก์ออกให้ดังกล่าวไปทำการเบิกถอนเงินสดจากเครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติของโจทก์และธนาคารต่างๆที่เป็นสมาชิกของโจทก์หลายครั้งหลายหน และโจทก์ได้ส่งใบแจ้งหนี้ให้จำเลยทราบเป็นรายเดือนทุกเดือนตลอดมา เพื่อให้จำเลยจัดการชำระหนี้คืนให้แก่โจทก์ แต่ปรากฏว่าจำเลยได้ประพฤติผิดสัญญาและผิดนัดชำระหนี้โดยจำเลยผ่อนชำระหนี้ค่างวดเงินกู้ให้แก่โจทก์เพียงบางส่วน ซึ่งไม่ตรงตามจำนวนและกำหนดระยะเวลาในสัญญา โดยจำเลยใช้บัตรกดเงินสดทำการเบิกถอนเงินสดครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๔ และชำระเงินกู้ให้แก่โจทก์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๔ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ จำเลยมีภาระหนี้อันเกิดจากการใช้บัตรเงินสดทำรายการเบิกถอนเงินกู้ยืมเพียง ณ วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๕ จำเลยคงค้างชำระแก่โจทก์เป็นต้นเงินจำนวน ๗๗,๓๑๖.๐๑ บาท ค้างชำระดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน ๖,๗๐๒.๒๑ บาทค้างชำระค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินเป็นเงินจำนวน ๕,๘๐๙.๔๕ บาทและค้างชำระค่าทวงถามเป็นเงินจำนวน ๑,๒๐๐.๐๐ บาท รวมเป็นเงินที่จำเลยค้างชำระหนี้แก่โจทก์เป็นเงินจำนวน ๙๑,๐๒๘.๖๗ บาท รายละเอียดปรากฏตามสำเนารายการความเคลื่อนไหวทางบัญชีและภาระหนี้ เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลย ๔ และหมายเลข ๕
โจทก์ได้ติดตามทวงถามให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์แล้วหลายครั้งหลายหน แต่จำเลยเพิกเฉยไม่ชำระหนี้ให้แก่โจทก์อีกแต่อย่างใด ปรากฏตามสำเนาหนังสือบอกล่าวทวงถามและไปรษณีย์ตอบรับของการสื่อสารแห่งประเทศไทย เอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลย ๖ และหมายเลข ๗
ข้อ ๔. การกระทำของจำเลยดังกล่าวข้างต้น เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์จึงประสงค์ให้จำเลยรับผิดชำระหนี้ต่อโจทก์เป็นเงินจำนวน ๙๑,๐๒๘.๖๗ บาท พร้อมดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินและค่าทวงถามดังนี้
๔.๑ ดอกเบี้ยค้างชำระของต้นเงินจำนวน ๗๗,๓๑๖.๐๑ นับถัดจากวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๕ จนถึงวันฟ้องใน อัตราร้อยละ ๑๕.๐๐ ต่อปีเป็นเงินจำนวน ๑๙,๕๗๒.๖๐ บาท
๔.๒ ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินค้างของต้นเงินจำนวน ๗๗,๓๑๖.๐๑ บาท นับถัดจากวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๕ จนถึงวันฟ้องใน อัตราร้อยละ ๑๓.๐๐ ต่อปีเป็นเงินจำนวน ๑๖,๙๖๒.๙๒ บาท
๔.๓ ค่าบริการติดตามทวงถามค้างชำระนับถัดจากวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๕ จนถึงวันฟ้องเป็นเงินจำนวน ๒๘,๐๐๐ บาท
รวมเป็นเงินต้น ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน ดอกเบี้ย และค่าทวงถาม คิดถึงวันฟ้อง จำเลยต้องรับผิดชำระให้แก่โจทก์เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น ๑๓๐,๓๖๔.๑๙ บาท ซึ่งโจทก์ขอถือเป็นทุนทรัพย์ในการฟ้องคดีนี้ รายละเอียดปรากฏตามสำเนาสรุปรายงานการคำนวณดอกเบี้ยและภาระหนี้
จำเลยต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ในอัตราร้อยละ ๑๕.๐๐ ต่อปี ของต้นเงินจำนวน ๗๗,๓๑๖.๐๑ บาทนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นแก่โจทก์
การประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ โจทก์ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจดังกล่าวได้ และในการคิดดอกเบี้ย รวมทั้งค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินดังกล่าวข้างต้น โจทก์ได้อาศัยอำนาจตามปราศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ ๕ แห่งประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ (เรื่องสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ) และธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ สำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งรายละเอียดหนังสืออนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ รายละเอียดเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมใดๆและค่าใช้จ่ายตามที่ได้จ่ายไปจริงและพอสมควรแก่เหตุเกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ประกาศกระทรวงการคลัง และประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ปรากฏตามเอกสารท้ายคำฟ้องหมายเลข ๘ – ๑๓
โจทก์ไม่มีทางอื่นใดที่จะบังคับให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์ได้ จึงจำต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาล เพื่อขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
คำขอท้ายฟ้องคดีผู้บริโภค
ขอศาลโปรดออกหมายเรียกจำเลยมาพิจารณาพิพากษาและบังคับจำเลยตามคำขอต่อไปนี้
๑. ให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์เป็นเงินจำนวน ๑๓๐,๓๖๑.๑๙ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปีของต้นเงินจำนวน ๗๗,๓๑๖.๐๑ บาทนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นแก่โจทก์ และให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความในอัตราอย่างสูงแทนโจทก์ด้วย
๒. ให้จำเลยกระทำหรืองดเว้นการกระทำ
๓. ส่งมอบสิ่งของ.....
๔. อื่นๆ
ข้าพเจ้ายื่นมาพร้อมสำเนาโดยข้อความถูกต้องเป็นอย่างเดียวกันมาด้วย หนึ่ง ฉบับและรอฟังคำสั่งอยู่หากไม่รอถือว่าทราบแล้ว
..........โจทก์
(บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) โดยนางสาวรุ่งรัตน์ อ่วมด้วง ผู้รับมอบอำนาจ)
ข้าพเจ้า เจ้าพนักงานคดี/ผู้บันทึก
ข้าพเจ้า นางสาวรุ่งรัตน์ อ่วมด้วง ทนายความใบอนุญาตเลขที่...../๒๕๔๗ ผู้เรียง/พิมพ์
นาย ว. ผู้เรียง/พิมพ์
ที่มา : คดีหมายเลขดำที่ ผบ.๙๓๔๒/๒๕๕๖ ศาลจังหวัดธัญบุรี