ฐานความผิด มียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
ข้อ ๑.เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๓ เวลากลางวัน จำเลยนี้ได้บังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ
(ก) ภายหลังจากจำเลยเสพเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเมทแอมเฟตามีนและเป็นอนุพันธ์เมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๒)พ.ศ. ๒๕๒๘ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ) พ.ศ. ๒๕๓๐ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ และตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๑๓๕ (พ.ศ.๒๕๓๙) เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ลงวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๙ ข้อ ๒ และบัญชีท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับดังกล่าว ชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ลำดับที่ ๒๐ ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและจำเลยได้ทราบข้อความในประกาศฉบับดังกล่าวแล้ว จำนวน ๑/๒ หน่วยการใช้ (เม็ด) โดยวิธีเผาลนไฟสูดดมควันเข้าสู่ร่างกาย ครั้นแล้วจำเลยซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ ได้บังอาจขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ฮ้อฮอนด้า รุ่นบีช สีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนไปตามถนนสาธารณะบริเวณสะพานรอยต่อบ้านเสม็จหมู่ที่ ๑ ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ ในขณะที่จำเลยมีสารเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ อันเป็นสารเสพติดให้โทษประเภท ๑ อยู่ในร่างกายของจำเลยเนื่องจากการเสพดังกล่าว โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีเหตุยกเว้นใดๆตามกฎหมาย อันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒
(ข) เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๓ เวลากลางวัน จำเลยนี้ได้บังอาจมีเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเมทแอมเฟตามีนและเป็นอนุพันธ์เมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๗ (๑) พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๔ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๓ , ๘ , ๑๙ และและตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๑๓๕ (พ.ศ.๒๕๓๙) เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ลงวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๙ ข้อ ๒ และบัญชีท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับดังกล่าว ชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ลำดับที่ ๒๐ ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและจำเลยได้ทราบข้อความในประกาศฉบับดังกล่าวแล้ว จำนวน ๕ หน่วยการใช้ (เม็ด) น้ำหนัก ๐.๔๗๗๔ กรัม (ศูนย์จุดสี่เจ็ดเจ็ดสี่กรัม) คำนวณน้ำหนักสารบริสุทธิ์ได้ ๐.๐๙๒๔ กรัม (เก้าสิบสองจุดสี่มิลลิกรัม) ไว้ในความครอบครองของจำเลยเพื่อจำหน่ายอันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และจำเลยได้บังอาจจำหน่ายโดยการขายเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ อันเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท ๑ จำนวน ๕ หน่วยการใช้ (เม็ด) น้ำหนักรวม ๐.๔๗๗๔ กรัม (ศูนย์จุดสี่เจ็ดเจ็ดสี่กรัม) ซึ่งจำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายดังกล่าวข้างต้นโดยไม่ได้รับอนุญาตให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อไปในราคา ๑,๕๐๐ บาท โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
เหตุตามฟ้องข้อ ๑ (ก) และ (ข) เกิดที่ตำบลเสม็จ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
ข้อ ๒. ตามวันเวลาดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑ (ข) ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยธนบัตรฉบับละ ๕๐๐ บาทจำนวน ๑ ฉบับ ธนบัตรฉบับละ ๑๐๐ บาทจำนวน ๑๐ ฉบับรวมจำนวน ๑,๕๐๐ บาทที่จำเลยได้ไปจากการขายเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อไปดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑ (ข) และได้เมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายและได้จำหน่ายโดยการขายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อไปดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑ (ข) จำนวน ๕ หน่วยการใช้ (เม็ด) และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโมบาย สีน้ำเงินหมายเลข.....จำนวน ๑ เครื่องซึ่งจำเลยใช้เป็นอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องใช้ในการติดต่อซื้อขายเมทแอมเฟตามีนกับสายลับผู้ล่อซื้อไปดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑ (ข) และรถจักรยานยนต์ ยี่ฮ้อฮอนด้า รุ่นบีช สีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจำนวน ๑ คันที่จำเลยใช้เป็นพาหนะขับขี่นำเมทแอมเฟตามีนมาจำหน่ายขายให้แก่สายลับดังกล่าวในฟ้องข้อ ๑ (ข) เป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนแล้ว
ชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ เมทแอมเฟตามีนที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์จำนวน ๐.๒๒๕ กรัมโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ไอโมบาย สีน้ำเงินหมายเลข.....จำนวน ๑ เครื่องและรถจักรยานยนต์ ยี่ฮ้อฮอนด้า รุ่นบีช สีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของกลางเจ้าพนักงานเก็บรักษาไว้
ระหว่างสอบสวนจำเลยถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันถูกจับ ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๓ พนักงานสอบสวนได้นำจำเลยมายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งส่งตัวจำเลยไปควบคุมเพื่อตรวจพิสูจน์การเสพหรือติดยาเสพติดต่อศาลนี้ตามคำร้องฟื้นฟูที่ ฟ.๙๗/๒๕๕๓ ต่อมาเมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๓ เลขานุการคณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผูติดยาเสพติดได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนรับตัวจำเลยไปดำเนินคดีเนื่องจากจำเลยกระทำความผิดฐานเป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน) ด้วยและในวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๓ พนักงานสอบสวนได้รับตัวจำเลยมาและได้ยื่นคำร้องขอฝากขังจำเลยต่อศาลนี้ ตามคำร้องขอฝากขัง คดีหมายเลขดำที่ ฝ.๖๕/๒๕๕๓ ขอศาลได้เบิกตัวจำเลยมาพิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
ข้อ ๓.ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก ๒ ปี ๑ เดือน ปรับ ๒๐๐ บาทฐานร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธหรือให้ละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่หรือใช้อาวุธปืน ข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันบุกรุกเคหสถานของผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป พาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทาสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโยผิดกฎหมาย ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยเป็นจำเลยที่ ๒ ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๑๐๙/๒๕๔๗ ของศาลจังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๔๗ ซึ่งมิใช่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ จำเลยไดกระทำความผิดในคดีก่อนนั้นโดยมีอายุเกินกว่าสิบเจ็ดปี จำเลยพ้นโทษในคดีกังกล่าวแล้วมากระทำผิดคดีนี้อีกภายในเวลาห้าปีนับแต่วันพ้นโทษ ขอศาลเพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมาย
อนึ่งหากจำเลยยื่นคำร้องขอประกันตัว ขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล
ท้ายคำฟ้องอาญา
การที่จำเลยได้กระทำตามข้อความที่กล่าวมาในคำฟ้องนั้น ข้าพเจ้าถือว่าเป็นความผิดต่อกฎหมายและบทมาตราดังนี้ คือ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔ , ๗ , ๘ , ๑๕ , ๕๗ , ๖๖ , ๙๑ , ๑๐๒ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๔ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๐ มาตรา ๓ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๓ , ๘ , ๑๙ , ๒๖ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ ๑๓๕ (พ.ศ.๒๕๓๙) เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ลงวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๓๙ ข้อ ๒ และบัญชีท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับฉบับที่ ๑๓๕ (พ.ศ.๒๕๓๙) ดังกล่าว ชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ ลำดับที่ ๒๐ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓ , ๙๐ , ๙๑ , ๙๒ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๒๖ มาตรา ๔ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ ทวิ , ๑๕๗/๑ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๔ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๗) พ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๙
ขอศาลได้พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายและขอศาลได้สั่ง ริบเมทแอมเฟตามีนที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์และโทรศัพท์มือถือยี่ฮ้อไอโมบาย สีน้ำเงิน หมายเลข.....จำนวน ๑ เครื่องและรถจักรยานยนต์ ยี่ฮ้อฮอนด้า รุ่นบีช สีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจำนวน ๑ คัน ของกลางและเพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมาย
ข้าพเจ้าได้ยื่นสำเนาคำฟ้อง โดยข้อความถูกต้องเป็นอย่างเดียวกันมาด้วยหนึ่งฉบับ และรอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว
......โจทก์
คำฟ้องฉบับนี้ข้าพเจ้า.....พนักงานอัยการ.....เป็นผู้เรียง
.....ผู้เรียง
คำฟ้องฉับนี้ข้าพเจ้า.....
ตำแหน่ง .....เป็นผู้เขียนหรือพิมพ์
.....ผู้เขียนหรือพิมพ์