ข้อ ๑. จำเลยคดีนี้เจ็บป่วยเนื่องจากก้านสมองขาดเลือดไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ปรากฏตามใบรับรองแพทย์ เอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๑ โดยจำเลยได้มอบอำนาจให้นาง ป. เป็นผู้มีอำนาจในการยื่นคำให้การและดำเนินคดีแทนตามหนังสือมอบอำนาจ เอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๒ 
ข้อ ๒. จำเลยขอให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ทั้งประเด็นข้อเท็จจริงและประเด็นข้อกฎหมายดังนี้
            (ก) จำเลยขอให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ในประเด็นข้อเท็จจริงดังนี้ กล่าวคือ                                     
               จำเลยขอให้การปฏิเสธว่านาย ภ. ไม่ใช่เป็นคู่สมรสของจำเลยแต่เป็นบุตรของจำเลย ปรากฏตามบัญชีเครือญาติ เอกสารท้ายคำให้การหมายเลข ๓.
               จำเลยขอให้การปฏิเสธว่า เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๔๘ นาย ภ. ไม่เคยยื่นคำขอสมัครบัตรเครดิตไว้กับโจทก์ ตามสมาชิกบัตรเครดิต หมายเลข ๔๓๙๑-๓๗๐๐-xxxx-xxxx ตามฟ้องโจทก์ข้อ ๑. แต่อย่างใดๆ
จำเลยขอให้การปฏิเสธว่า เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ นาย ภ. ไม่เคยยื่นคำขอกู้เงินสินเชื่อพร้อมใช้หรือสินเชื่อกดเงินสดกับโจทก์ ตามการอนุมัติวงเงินของโจทก์ตามหมายเลขบัญชีเงินกู้ ๔๒๑๖-xxxx-๐๘๒๓-xxxx ตามฟ้องโจทก์ข้อ ๓. แต่อย่างใดๆภาระหนี้ตามที่โจทก์อ้างตามเอกสารท้ายฟ้องโจทก์หมายเลข ๗ และหมายเลข ๘ ไม่ใช่ภาระหนี้ตามที่โจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยข้างต้นในคดีนี้
            (ข) จำเลยขอให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ในประเด็นข้อกฎหมายดังนี้ กล่าวคือฟ้องโจทก์ไม่ชอบ
ด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความความแพ่งมาตรา ๑๗๒ กล่าวคือฟ้องโจทก์เป็นฟ้องที่เคลือบคลุมขาดสาระสำคัญในส่วนข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา เพราะว่า โจทก์อ้างว่า นาย ภ. เป็นหนี้บัตรเครดิตไว้กับโจทก์ ตามสมาชิกบัตรเครดิต หมายเลข ๔๓๙๑-๓๗๐๐-xxxx-xxxx ตามฟ้องโจทก์ข้อ ๑. และโจทก์อ้างว่านาย ภ. เป็นหนี้กู้เงินสินเชื่อพร้อมใช้หรือสินเชื่อกดเงินสดกับโจทก์ ตามการอนุมัติวงเงินของโจทก์ตามหมายเลขบัญชีเงินกู้ ๔๒๑๖-xxxx-๐๘๒๓-xxxx ตามฟ้องโจทก์ข้อ ๓. โดยโจทก์บรรยายฟ้องว่า รายละเอียดปรากฏตามสำเนาใบสมัครบัตรเครดิตพร้อมข้อตกลงและเงื่อนไขในการใช้บัตรเครดิตซึ่งโจทก์ขอนำสืบในชั้นพิจารณาและบรรยายฟ้องว่า รายละเอียดปรากฏตามสำเนาใบสมัครบัตรสินเชื่อพร้อมใช้ซึ่งโจทก์ขอนำสืบในชั้นพิจารณา ทั้งโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องให้ชัดเจนว่านาย ภ. เป็นหนี้บัตรเครดิตและเป็นหนี้กู้เงินสินเชื่อพร้อมใช้หรือสินเชื่อกดเงินสดกับโจทก์ โดยหนี้ดังกล่าวนั้นผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่เมื่อใด นับระยะเวลาการผิดนัดอย่างไร เป็นเงินเท่าใด เป็นเงินต้นเท่าใด เป็นดอกเบี้ยเท่าใด ได้หักทอนเงินทางบัญชีกันครั้งสุดท้ายเมื่อไร อย่างไร เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ขาดสาระสำคัญเรื่องข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ทำให้จำเลยไม่สามารถต่อสู้คดีได้เลยว่า คดีขาดอายุความแล้วหรือไม่ อย่างไร ผู้ตายเป็นหนี้และผิดนัดชำระจริงหรือไม่ ผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่เมื่อใด ฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความความแพ่ง มาตรา ๑๗๒ 
               จำเลยขอให้การตัดฟ้องโจทก์โดยข้อกฎหมายว่า จำเลยในฐานะทายาทโดยธรรมของนาย ภ. ผู้ตายไม่จำต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอกได้แก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๐๑ เพราะจำเลยไม่เคยได้รับมรดกตกทอดของนาย ภ. ผู้ตาย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามฟ้องโจทก์แต่อย่างใดๆ
               อาศัยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่จำเลยได้ให้การต่อสู้มา จึงขอศาลได้โปรดพิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยด้วย
                           ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด 
                ลงชื่อ                                        ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลย
       คำให้การจำเลยฉบับนี้ ข้าพเจ้านาง ป. ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยเป็นผู้เรียง
                ลงชื่อ          ผู้เรียง 
       คำให้การจำเลยฉบับนี้ ข้าพเจ้านาย ก. เป็นผู้พิมพ์ 
                 ลงชื่อ          ผู้พิมพ์

โปรดดู ตัวอย่างคำฟ้องในคดีนี้

โปรดดู  ตัวอย่างรายงานกระบวนพิจารณาคดีของศาลในคดีนี้