|
ข้อ ๑. คดีนี้ ผู้คัดค้านได้ยื่นคำร้องคัดค้านผู้ร้องโดยข้อกฎหมายว่า คำร้องของผู้ร้องไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๒ กล่าวคือ คำร้องนั้นไม่ได้แสดงโดยชัดแจ้งว่าผู้ร้องครอบครองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำปะโยชน์เลขที่ใด , ทะเบียนเล่มที่เท่าใด , หน้าใด , สารบบเล่ม และหน้าใด ทำให้ผู้คัดค้านไม่เข้าใจคำร้องได้อย่างชัดแจ้ง จนทำให้ไม่สามารถยื่นคำร้องคัดค้านได้อย่างถูกต้อง ทั้งผู้ร้องไม่มีอำนาจยื่นคำร้องในคดีนี้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายรับรองคุ้มครองสิทธิของผู้ร้องดังที่ผู้ร้องอ้างขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๘๒ ซึ่งการอ้างสิทธิ์ตามกฎหมายดังกล่าวนั้นต้องเป็นการครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของโดยครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา ๑๐ ปี แต่ผู้ร้องอ้างว่าครอบครองทรัพย์สินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของตนเอง ทั้งไม่ใช่ที่ดินกรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย ผู้ร้องจึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องในคดีนี้
ข้อ ๒. เนื่องจากผู้คัดค้านได้ยกปัญหาขอกฎหมายขึ้นอ้างตามความในข้อ ๑. แล้ว ซึ่งถ้าหากศาลได้โปรดวินิจฉัยข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้นให้เป็นคุณแก่ฝ่ายผู้คัดค้านแล้วจะไม่ต้องมีการพิจารณาคดีต่อไปอีกหรือถึงแม้จะดำเนินการพิจารณาประเด็นข้อสำคัญแห่งคดีไปก็ไม่ทำให้ได้ความชัดขึ้นอีกแล้วทั้งจะทำให้คดีเสร็จไปได้ทั้งเรื่อง
ด้วยเหตุผลข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น จึงขอศาลได้โปรดได้พิจารณาปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้นและได้โปรดวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวให้เป็นคุณแก่ผู้คัดค้านโดยพิพากษาว่าคำร้องของผู้ร้องไม่ชอบด้วยประมวลกฎหายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๒ และยกคำร้องของผู้ร้องเสียเพราะผู้ร้องไม่มีอำนาจยื่นคำร้องในคดีนี้
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
ลงชื่อ ทนายผู้คัดค้าน
คำร้องคัดค้านฉบับนี้ ข้าพเจ้านาย ป.ทนายความผู้คัดค้านเป็นผู้เรียงและพิมพ์
ลงชื่อ ผู้เรียงและพิมพ์