|
ข้อ ๑. คดีนี้ จำเลย ให้การตัดฟ้องโจทก์โดยข้อกฎหมายว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
เนื่องจากจำเลยไม่เคยเป็นลูกหนี้โจทก์ ไม่เคยมีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ทั้งสิ้น ไม่เคยโต้แย้งสิทธิโจทก์และไม่เคยก่อให้เคยความเสียหายแก่โจทก์แต่อย่างใดๆ จึงไม่มีความรับผิดชอบต่อโจทก์ในเรื่องใดๆทั้งจำเลยให้การปฏิเสธว่า แม้จำเลยจะเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายจริงก็ตาม แต่จำเลยไม่เคยได้รับมรดกของนาย ส. (ผู้ตาย) ลูกหนี้ของโจทก์แต่อย่างใดๆ ดังนั้น เมื่อจำเลยไม่เคยได้รับมรดกจากผู้ตาย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินจำนวน ๒๘๔,๑๙๑.๕๗ บาทและค่าเสียหายตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์แต่อย่างใด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๐๑ ที่บัญญัติว่า ทายาทไม่จำต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอดได้แก่ตน
ข้อ ๒. เนื่องจากจำเลยได้ยกปัญหาข้อกฎหมายเรื่องโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะจำเลยไม่เคยโต้แย้งสิทธิโจทก์แต่อย่างใดๆ อีกทั้งได้อ้างประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๐๑ ที่บัญญัติว่า ทายาทไม่จำต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอดได้แก่ตน ขึ้นอ้างซึ่งถ้าหากศาลจะได้โปรดวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่ฝ่ายจำเลยแล้ว จะไม่ต้องมีการพิจารณาคดีอีกต่อไป หรือ ถึงแม้จะดำเนินกระบวนพิจารณาประเด็นสำคัญแห่งคดีไปก็ไม่ได้ทำให้ได้ความชัดขึ้นอีกแล้ว
อาศัยเหตุผลข้อกฎหมายดังกล่าวข้างต้น จึงขอศาลได้โปรดพิจารณาปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวและโปรดวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นข้อกฎหมายว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด
ลงชื่อ จำเลย
คำร้องฉบับนี้ ข้าพเจ้านาง จ. จำเลย เป็นผู้เรียงและพิมพ์
ลงชื่อ ผู้เรียงและพิมพ์