เรื่อง ที่ดิน ให้
โจทก์ฟ้องว่าเดิมโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ก.) เลขที่......ตำบลหนองบัวสิม อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร เนื้อที่ ๘๓ ตารางวา เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ โจทก์ยกที่ดินให้พิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้จำเลยโดยเสน่หา ต่อมาเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ จำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ ด่าโจทก์ด้วยคำหยาบ อันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ขอให้จำเลยส่งมอบที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ก.) เลขที่.......ตำบลหนองบัวสิม อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร คืนแก่โจทก์โดยให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนเปลี่ยนชื่อจากจำเลยเป็นชื่อโจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามขอให้ถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ
ทางพิจารณาโจทก์นำสืบว่า เดิมโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ก.) เลขที่.......ตำบลหนองบัวสิม อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร เนื้อที่ ๘๓ ตารางวา เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ โจทก์ยกที่ดินให้พิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้จำเลยโดยเสน่หา และไม่มีภาระติดพันตามหนังสือสัญญาให้ที่ดินเอกสารหมาย จ. ๓ ต่อมาเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ โจทก์ป่วยเป็นโรคอัมพาตไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ จึงให้นาง ค ภรรยาไปขอเงินจากจำเลย จำเลยด่าโจทก์ด้วยคำหยาบ อันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง
พิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เดิมโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ก.) เลขที่.......ตำบลหนองบัวสิม อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร เนื้อที่ ๘๓ ตารางวา ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์หมาย จ. ๒ เมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ โจทก์ยกที่ดินให้พิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้จำเลยโดยเสน่หา และไม่มีภาระติดพันตามาหนังสือสัญญาให้ที่ดินเอกสารหมาย จ. ๓ คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า โจทก์จะเรียกถอนคืนการให้ได้หรือไม่ โจทก์มีนาง ค. ผู้รับมอบอำนาจโจทก์เบิกความเป็นพยานยืนยันว่า ประมาณเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ โจทก์ป่วยเป็นโรคอัมพาตไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ จึงให้พยานพาโจทก์ไปขอเงินจากจำเลย โจทก์ฉี่รดราดกางเกง จำเลยด่าโจทก์ว่า “บักอีเฒ่าปานได๋มึงสิตาย กูทรมานกับมึงมาโดนแล้ว กูบ่เคยนับถือมึงเฒ่าแล้วบ่มีศีลธรรม” และอีกหลายประโยคซึ่งพยานจำไม่ได้ อันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๓๑ อันผู้ให้จะเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณนั้น ท่านว่าอาจจะเรียกได้แต่เพียงในกรณีดังจะกล่าวต่อไปนี้ (๒) ถ้าผู้รับได้ทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียง หรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง ดังนั้น การที่จำเลยด่าโจทก์ซึ่งเป็นบิดาดังกล่าวจึงเป็นถ้อยคำที่รุนแรงและหยาบคายทั้งจำเลยด่าว่าให้โจทก์ไปตาย ซึ่งจำเลยในฐานะบุตรไม่พึงกระทำต่อโจทก์ผู้เป็นบิดา แสดให้เห็นว่าจำเลยสิ้นความเคารพยำเกรงโจทก์ซึ่งเป็นบิดา เป็นการลบหลู่และอกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง โจทก์ผู้ให้ย่อมเรียกถอนคืนการให้ เพราะเหตุจำเลยผู้รับประพฤติเนรคุณได้
พิพากษาให้ถอนคืนการให้ที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓ก.) เลขที่.......ตำบลหนองบัวสิม อำเภอคำตากล้า จังหวัดสกลนคร โดยให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวคืนแก่โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติ ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๓,๐๐๐ บาท
ที่มา: คำพิพากษาศาลจังหวัดสว่างแดนดิน คดีหมายเลขแดงที่ ๘๖๗/๒๕๕๖